- ประคบร้อน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึง มีการผ่อนคลาย ลองประคบกระเป๋าน้ำร้อนครั้งละ 3-5 นาที แล้วจะรู้สึกว่าอาการปวดท้องดีขึ้น วิธีนี้ มีการวิจัยว่า สามารถลดอาการปวดได้ดีพอๆกับการกินยาแก้ปวด หากไม่มีกระเป๋าน้ำร้อน จะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนแทนก็ได้
- การเล่นกีฬา เช่น วิ่งจ็อกกิ่ง ว่ายน้ำ เดิน ช่วยให้ผ่อนคลาย คลายเครียด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3ครั้งต่อสัปดาห์ หรือการทำโยคะ จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
- การดื่มน้ำอุ่นๆ 6-8 แก้ว/วัน ลดอาการท้องอืด ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น หรือจะผสมใบมินท์ หรือมะนาวซักเล็กน้อย จะยิ่งช่วยได้มาก
- น้ำขิง ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ ขิงมีส่วนช่วยลดการหลั่งสาร Prostaglandins ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มดลูกบีบตัวทำให้เกิดการปวดประจำเดือน ทานน้ำขิงเพียง 1-2 แก้วต่อวันจะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
- เลี่ยงบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เพิ่มความเสี่ยงในการปวดประจำเดือนได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง
- พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความตึงเครียดของร่างกายและสมอง หาเวลานอนหลับให้ได้อย่างน้อย วันละ 6 ชั่วโมง
- การแต่งตัว ควรใส่เสื้อผ้าที่หลวมๆ ไม่ควรใส่แบบรัดรูป เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด ยิ่งปวดแน่นท้องมากขึ้น
- การใช้วิตามินเสริมบางอย่าง สามารถลดอาการปวดประจำเดือนได้ เช่น วิตามิน B1, B12, วิตามิน E, fish oil หรือ Magnesium อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาเพียงพอในการใช้วิตามินเสริมเหล่านี้ จึงแนะนำให้การกินอาหารที่มีประโยชน์ ได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ครบถ้วน
- รับประทานอาหาร low fat เพิ่มการทานผัก Anti-Inflammatory food หรืออาหารที่ช่วยต่อต้านการอักเสบ เช่น เชอรี่ บลูเบอรี่ มะเขือเทศ พริกหยวก ก็ช่วยลดการปวดได้ แถมยังมีวิตามินสูงด้วยนะคะ ️
ถ้าหากลองใช้วิธีต่างๆเหล่านี้ ร่วมกับการกินยาแก้ปวดแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น, ปวดประจำเดือนมากขึ้นทุกเดือน หรือมีประจำเดือนมากร่วมด้วย นั่นเป็นสัญญาณเตือนแล้ว ให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัดจะดีที่สุด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์สุขภาพสตรี
โทร. 0-2734 0000 ต่อ 3200, 3204
- Readers Rating
- Rated 3.4 stars
3.4 / 5 (Reviewers) - Very Good
- Your Rating