ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP:Platelet Rich Plasma) อีกทางเลือกลดบาดเจ็บจากกีฬา

เป็นที่ทราบกันกันดีอยู่แล้วว่า เกล็ดเลือด (Platelet) มีคุณสมบัติในการช่วยสมานแผล เวลาหกล้มมีแผล หรือ มีดบาด แต่จริง ๆ แล้วเกล็ดเลือดไม่ได้ช่วยสมานแผลแค่ภายนอกเท่านั้น แต่เกล็ดเลือดยังช่วยสมานบาดแผลภายในได้อีกด้วย ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ค้นพบว่า ในเกล็ดเลือดมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Growth hormone ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นกระบวนการสมานแผลของร่างกายมนุษย์ เปรียบเสมือนวิศวกรที่มาควบคุมการซ่อมแซมตึกนั่นเอง

การฉีดเกล็ดเลือด (Platelet) ต่างจากการฉีดยาอย่างไร

ต่างกันมาก เพราะการฉีดยาโดยทั่วไปนั้นจะเป็นการฉีดยาแก้ปวด ลดอาการอักเสบ เวลาเส้นเอ็นมีการบาดเจ็บจะเกิดการอักเสบขึ้น ซึ่งสารอักเสบพวกนี้เป็นสาเหตุของการเจ็บปวด โดยยาแก้อักเสบที่ฉีดเข้าไปจะช่วยลดอาการอักเสบทำให้ลดอาการปวดลงได้ แต่อย่างไรก็ตามยาไม่ได้ไปช่วยให้กระบวนการสมานแผล แต่เป็นการรักษาอาการที่ปลายเหตุเท่านั้น ส่วนการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น(PRP) นั้น มีฤทธิ์ไปกระตุ้นกระบวนการสมานแผลที่เกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น ซึ่งเป็นการรักษาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง โดยไม่ได้มีฤทธิ์ลดอาการปวดแต่อย่างใด ซึ่งอาการปวดจะหายไปเองเมื่อมีการสมานแผลแล้ว

การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP:Platelet Rich Plasma) สามารถใช้รักษาการบาดเจ็บจากกีฬาอย่างไรได้บ้าง?

การฉีดเกล็ดเลือดสามารถฉีดได้ทุกส่วนของร่างกาย เพราะฉะนั้นสามารถฉีดรักษาเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อได้หมดทั้งร่างกาย โดยถ้าแบ่งการบาดเจ็บจากกีฬาตามระยะเวลาที่เป็น จะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ การบาดเจ็บใหม่ กับการบาดเจ็บเรื้อรัง ซึ่งในปัจจุบันมีงานวิจัยปริมาณมากที่รองรับการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น(PRP) ในการรักษาการบาดเจ็บของเส้นเอ็นแบบเรื้อรัง เช่น เอ็นข้อศอกอักแสบเรื้อรัง เอ็นร้อยหวายอักเสบเรื้อรัง ได้ผลดี ส่วนในกลุ่มการบาดเจ็บใหม่นั้นงานวิจัยยังมีปริมาณไม่มากนัก แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันมีการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น(PRP) อยู่มากมายในวงการกีฬา เช่น นักกอล์ฟชื่อดังของโลกที่มีเชื้อสายคนไทย หรือ นักเทนนิสอันดับต้น ๆ ของโลก ก็มีการใช้เกล็ดเลือดเข้มข้น(PRP) ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพื่อให้สามารถกลับมาเล่นกีฬาได้เร็วขึ้น หรือแม้แต่ทีมสโมสรฟุตบอลอันดับต้น ๆ ของไทยบางทีมก็มีเครื่องสกัดเกล็ดเลือดเข้มข้น(PRP) เป็นของตัวเองเลย

ขั้นตอนการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP:Platelet Rich Plasma) เป็นอย่างไร?

การเตรียมตัวมาฉีดง่ายมาก แค่พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ เท่านั้น ก่อนจะฉีดจะเจาะเลือดของผู้ป่วยเองประมาณ 15 ml เพื่อนำมาเข้าเครื่องสกัดแยกเกล็ดเลือดใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วจึงนำกลับไปฉีดตรงบริเวณที่มีการบาดเจ็บ หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อเสียของการฉีดเกล็ดเลือด?

ผลข้างเคียงของการฉีดเกล็ดเลือดนั้นน้อย เนื่องจากเป็นเลือดของเราเอง จึงแทบจะไม่มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงใดเลย แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ในผู้ป่วยที่มีไข้อยู่ไม่ควรฉีด ต้องรอให้หายไข้ดีก่อน เพราะอาจมีเขื้อโรคอยู่ในกระแสเลือดได้

สรุปการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP:Platelet Rich Plasma)

เป็นวิวัฒนาการการรักษาใหม่ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆในช่วง 10 ปี มานี้ เป็นการรักษาที่สาเหตุ คือบาดแผลที่เส้นเอ็น โดยตรง มีผลข้างเคียงน้อยเนื่องจากเป็นสารที่สกัดจากตัวผู้ป่วยเอง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวชธานี
โทร 02-734-0000 ต่อ 2298