

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและความคาดหวัง แต่ก็อาจมาพร้อมกับความเสี่ยงบางประการ หนึ่งในนั้นคือ “ภาวะคลอดก่อนกำหนด” ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งมารดาและทารก ซึ่งการตรวจคัดกรองครรภ์เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด เพื่อให้คุณแม่มือใหม่และผู้ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ได้เตรียมพร้อมและดูแลตนเองอย่างเหมาะสม
“ภาวะคลอดก่อนกำหนด” สัมพันธ์อย่างไรกับ “ความยาวปากมดลูก” ?
ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด คือ ภาวะที่มีการหดรัดตัวของมดลูกอย่างสม่ำเสมอและแรงพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูกตามมา อันจะนำไปสู่การคลอดทารกก่อนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์ ทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพพลภาพและมีอัตราเสียชีวิตสูง โดยขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ที่คลอดและสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว ยิ่งคลอดก่อนกำหนดโดยอายุครรภ์น้อยกว่า 34 สัปดาห์หรือคลอดจากภาวะติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพพลภาพ/เสียชีวิตสูงมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงของการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
การรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด จะช่วยให้คุณปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการดูแลครรภ์ได้อย่างเหมาะสม และลดโอกาสการเกิดภาวะดังกล่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งมารดาและทารก โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญมีอยู่หลายประการ เช่น
- อายุมารดามากกว่า 35 ปี หรือน้อยกว่า 18 ปี
- มีประวัติการคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน
- มีความผิดปกติของโพรงมดลูกหรือปากมดลูก
- ตั้งครรภ์แฝดหรือมีภาวะน้ำคร่ำมาก
- การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ/ระบบสืบพันธุ์
- สูบบุหรี่หรือใช้สารเสพติดในมารดา
- ภาวะทุพโภชนาการ
ปัจจัยเสี่ยงของภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดนั้น มีทั้งปัจจัยที่ป้องกันได้และป้องกันไม่ได้ สตรีตั้งครรภ์จึงควรให้ความใส่ใจในการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ ตรวจคัดกรอง และแก้ไขปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่แก้ไขได้ พร้อมปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด โดยให้เริ่มตั้งแต่ตอนฝากครรภ์เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินความเสี่ยง โดยการวัดความยาวปากมดลูกและให้การรักษา หากมีความผิดปกติ
วิธีการตรวจคัดกรองครรภ์เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด
ปัจจุบันมีวิธีการตรวจคัดกรองอยู่ 2 วิธี คือ การพิจารณาประวัติคลอดก่อนกำหนด/แท้งบุตรไตรมาส 2 และการวัดความยาวปากมดลูกโดยตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงทางช่องคลอด (Transvaginal Cervical Length Measurement)
มีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อนหน้า
- หากสตรีตั้งครรภ์มีประวัติเคยคลอดก่อนกำหนดมาก่อน ตั้งแต่อายุครรภ์ 16 สัปดาห์ แพทย์จะตรวจวัดความยาวปากมดลูกทุก 2 สัปดาห์ หากพบว่าสั้นกว่า 2.5 cm แนะนำทำการเย็บผูกปากมดลูก (Cervical Cerclage)
- กรณีเคยแท้งบุตรไตรมาส 2 จากภาวะ Cervical Incompetence แนะนำทำการเย็บผูกปากมดลูกเลย ก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์
ไม่มีประวัติคลอดก่อนกำหนดมาก่อน
หากไม่มีประวัติคลอดก่อนกำหนดมาก่อน แพทย์จะแนะนำให้เข้ารับการตรวจคัดกรองวัดความยาวปากมดลูกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงตั้งแต่อายุครรภ์ 18 สัปดาห์ขึ้นไป โดยเพิ่มเติมจากการตรวจดูความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางหน้าท้อง หากพบว่าปากมดลูกสั้นมากกว่า 2.5 cm แพทย์จะให้ยาฮอร์โมนเหน็บทางช่องคลอดทุกวัน แต่ถ้าปากมดลูกสั้นกว่า 1 cm อาจได้รับการแนะนำให้ทำการเย็บผูกปากมดลูกเลย เพื่อลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดหรือโอกาสแท้งในไตรมาส 2
จะเห็นได้ว่าการตรวจวัดความยาวปากมดลูก เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคัดกรองความเสี่ยงภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด เนื่องจากทำได้ง่าย และหากพบว่าปากมดลูกสั้น ก็มีวิธีการดูแลรักษาด้วยยาฮอร์โมนรองรับ ดังนั้น เมื่อสตรีตั้งครรภ์ไปรับการตรวจความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ควรได้รับการตรวจวัดความยาวปากมดลูกเพิ่มเติม นอกจากนี้ สตรีตั้งครรภ์สามารถลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้ เพียงทำตามข้อปฏิบัติ ดังนี้
- ดูแลสุขอนามัยขณะตั้งครรภ์
- เช็กสุขภาพครรภ์สม่ำเสมอ
- พบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ/ระบบสืบพันธุ์
- เฝ้าสังเกตอาการมดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนด
- รีบพบแพทย์หากมีอาการเจ็บครรภ์ มีมูกเลือด หรือน้ำเดิน
หากพบว่ามีความเสี่ยงหรือมีอาการเข้าข่ายภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี ที่ ศูนย์สุขภาพสตรี ชั้น 2 โรงพยาบาลเวชธานี พร้อมให้บริการด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย โดยแพทย์ชำนาญการเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสตรีตั้งครรภ์ทุกคน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ล่วงหน้าได้ที่ โทร. 02-734-0000 ต่อ 3200, 3204
- Readers Rating
- Rated 3.8 stars
3.8 / 5 (Reviewers) - Excellent
- Your Rating