5 ขวบ … จุดเริ่มต้นของสาวแว่น สายตาผิดปกติ
คงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการไม่ว่าสายตานั้นจะยาว สั้น หรือเอียง แต่ด้วยอายุหรือหน้าที่การงานที่ทำให้ต้องใช้สายตาคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากเกิดอาการสายตาสั้นตั้งแต่เด็ก คงจะเป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยว่าเหตุใดทำไมเราต้องใส่แว่นในขณะทีเพื่อนคนอื่นๆไม่ต้องใช้ ซึ่งคงจะเป็นเช่นเดียวกับ
คุณขวัญ – ธิดารัตน์ ยานุสุทธิ์ ที่เป็นเด็กสายตาสั้นมาแต่กำเนิด โดยคุณขวัญเล่าจุดเริ่มต้นของสายตาสั้นให้ฟังว่า “ตนเป็นคนสายตาสั้นมาแต่กำเนิด เพราะเป็นพันธุ์กรรมจากทั้งฝั่งคุณพ่อและคุณแม่ ซึ่งหากจำไม่ผิดตอนเด็กๆสายตาสั้นของตนจะอยู่ที่ 1650 จึงเรียกได้ว่าตนเป็นเด็กแว่นตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และตั้งแต่นั้นมาก็ใส่แว่นมาโดยตลอด
ตอนเด็กๆ จำได้ว่าต้องใส่แว่นตลอด และแว่นสมัยก่อนก็จะเป็นแว่นสายตาสั้นแบบหนาๆ เพราะสายตาเราสั้นเยอะตั้งพันกว่า เวลาถอดแว่นออกจะเห็นเพียงแค่ภาพลางๆ มองอย่างอื่นไม่ได้เลย”
ความฝันของสาวแว่น
คุณขวัญ เล่าต่อว่า ด้วยความที่เราสายตาสั้นและต้องพึ่งแว่นมาโดยตลอด แม้การพัฒนาทางการแพทย์จะมีคอนแท็คเลนส์มาช่วยคนสายตาสั้นไม่ให้ต้องใส่แว่น แต่เราไม่สามารถใส่แบบคนอื่นได้ เพราะเคยลองใส่แล้วตาจะแดงเพราะติดเชื้อเลยไม่กล้าใส่อีก เหมือนที่บอกว่าเราต้องใส่แว่นสายตามาตั้งแต่อายุ 5 ขวบพอเริ่มเป็นสาวเห็นเพื่อนๆเวลาออกแดดก็ใส่แว่นกันแดดเก๋ๆ ตามแฟชั่นนิยม เราก็เกิดความรู้สึกอยากใส่มากถือเป็นความฝันของเราเลยก็ว่าได้ ว่าอยากใส่แว่นกันแดดเก๋ๆ แบบคนอื่นเขาบ้าง ซึ่งเราก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งความฝันของเราจะเป็นจริง
เมื่อความฝันกำลังจะเป็นจริง
คุณขวัญ เล่าจุดเปลี่ยนของชีวิตสาวแว่นว่า แต่เดิมไม่เคยมีความคิดหรือหาข้อมูลในการทำเลสิกเลย เพราะวันๆก็ทำแต่งาน ไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องดังกล่าวอาจจะด้วยว่าเคยชินกับการใส่แว่นที่ใส่มาเกือบ 30 ปีก็ว่าได้ แต่อยู่ดีๆวันหนึ่งได้ไปเจอแม่ของเพื่อนซึ่งคงจะเห็นว่าตนใส่แว่นมานานแล้ว เลยบอกว่าที่โรงพยาบาลเวชธานีมีการทำเลสิกแก้ปัญหาสายตานะ พอฟังแค่นั้นตนก็สนใจที่จะมาทำเลสิกที่โรงพยาบาลเวชธานีเลย แต่พอมาถึงกลับทำไม่ได้เพราะสายตาของเราสั้นมาก จึงปรึกษาคุณหมอว่าทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งคุณหมอก็แนะนำรักษาปัญหาสายตาสั้นมากด้วยการทำ ICL ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติแบบถาวร โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กผ่านกระจกตาเพื่อนำเลนส์ใส่เข้าไป โดยแผลที่ผ่าตัดจะสมานตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องเย็บแผล ซึ่งพอคุณหมอเสนอทางออกมาตนตอบตกลงทันทีโดยไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเพราะตนมีความรู้สึกตั้งแต่เด็กแล้วว่าไม่อยากใส่แว่นตาที่หนาๆ หากมีวิธีไหนที่ทำให้ตนไม่ต้องใส่แว่นได้ตนจะทำทันที
“พอเราตัดสินใจว่าเราจะทำ ICL ที่โรงพยาบาลเวชธานีแล้วพอกลับบ้าน จึงค่อยหาข้อมูลจากชื่อคุณหมอที่ทำให้ พอเสิร์ชดูก็เห็นว่าเป็นอาจารย์หมอจึงลดความกังวลต่างๆ ลงไปเยอะ และรู้สึกมั่นใจในตัวคุณหมอมากขึ้นอีก”
คุณขวัญเล่าต่อว่า วันที่ต้องมาทำ ICL มีแต่คนถามว่ารู้สึกกลัวหรือไม่ … ตนตอบได้เลยว่าไม่รู้สึกกลัวเลย เพราะใจรู้สึกว่าอยากทำมากกว่า แต่มาตื่นเต้นในวันเปิดตา เพราะหลังทำแพทย์จะปิดตาเราและมาเปิดตาอีกทีตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ซึ่งก่อนจะเปิดตาก็กลัวสารพัด กลัวว่าจะมองไม่เห็น แต่พอเปิดมาเห็นไฟสว่างชัดเจน รู้สึกดีใจมาก
เมื่อสาวแว่น … ได้ใช้ชีวิตโดยปราศจากแว่นครั้งแรก ในรอบ 30 ปี
หลังจากที่คุณหมอเปิดตา คุณพยาบาลก็นำกระจกมาให้เราส่องดูตัวเอง ตอนแรกต้องปรับสภาพนิดนึงเหมือนกัน เพราะพอเราไม่ใส่แว่นหน้าตาเราก็เปลี่ยนไป จากปกติที่เคยใส่แว่นมา 30 ปี มีถอดแว่นแค่ 2 เวลา คือ เวลสอาบน้ำและเวลาเข้านอน ตอนถอดแว่นใช้ชีวิตใหม่ๆ ก็ยังรู้สึกว่าไม่ชิน เพื่อนๆ และคนรอบข้างจะมีมาถามกันตลอดว่า ทำไมไม่ใส่แว่น ไปทำอะไรมาแล้วมองเห็นหรือ เห็นชัดหรือไม่ ซึ่งเราก็ตอบทุกคำถามว่าเราไปทำ ICL มาที่โรงพยาบาลเวชธานี เราก็แนะนำเพื่อนๆ ต่อๆ กันไป … เพราะเราคิดว่าเราทำมาแล้วดีเราก็อยากจะบอกต่อเพื่อนๆ ความประทับใจในการรักษาของคุณหมอ
อยากจะบอกว่า “คุณหมอที่โรงพยาบาลเวชธานีใจดีและน่ารักและให้คำปรึกษาดี โดยส่วนตัวชอบการให้บริการและคุณหมอที่นี่มากค่ะ”
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ตา ชั้น 2 โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000 ต่อ 2815, 3260
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (4 Reviewers) - Spectacular