อาการปวดเข่าเรื้อรังจะหมดไป… ด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมยืดอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี

อาการปวดเข่าเรื้อรังจะหมดไป…
ด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมยืดอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี

เมื่อต้องประสบกับอาการปวดเข่า หลายคนคงต้องทนทุกข์ทรมานไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหนก็สุดแสนจะลำบาก ในบางครั้งเมื่อมีอาการปวดมาก ๆ จนทำให้ไม่อยากเดิน ไม่อยากเคลื่อนไหวเลยก็มี และในบางรายถึงขั้นปวดมากจนอาจต้องพึ่งพารถเข็น เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจะทำให้ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆตามมา

คุณวงเดือน ลิ้มสุวรรณ อายุ 47 ปี อาชีพแม่ค้าขายผัก ตลาดลาซาลซอย 79 ได้บอกกับทีมงานว่า ก่อนที่จะมารักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี เธอมีอาการปวดเข่า มาเป็นเวลากว่า 2 ปี ล่าสุดมีอาการเจ็บมากจนไม่สามารถเดินได้ เวลาที่เดินก็มีอาการที่แย่มาก ๆ ไปรักษามาหลายโรงพยาบาล แพงแค่ไหนก็ยอมจ่าย แต่รักษาแค่ให้ยาแก้อักเสบมารับประทานเพียงอย่างเดียว ขณะที่อีกโรงพยาบาลหนึ่งได้แค่ฉีดน้ำหล่อลื่นหัวเข่าให้เท่านั้น ทำให้อาการยังไม่ดีขึ้น และยังมีอาการปวดหนักขึ้นกว่าเดิม

จึงเริ่มที่จะท้อกับการหาหมอว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที จนในที่สุดได้มาเจอกับคนที่รู้จักได้แนะนำให้มาตรวจกับคุณหมอเปรมเสถียร ศิริธนาพิพัฒน์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ-การผ่าตัดข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม ศูนย์ฟื้นฟูข้อเสี่อม โรงพยาบาลเวชธานี เนื่องจากคนที่แนะนำให้มาหาคุณหมอนั้นเคยพาคุณแม่มารักษาและหาย คุณแม่ของเขาสามารถเดินได้ตามปกติ ทำให้เราอยากมาตรวจกับคุณหมอเพราะอยากจะหายบ้าง ไม่อยากทนทุกข์ทรมานกับการปวดขา อีก และเมื่อได้มาตรวจกับคุณหมอและได้เล่าอาการปวดขาให้ฟัง เริ่มต้นคุณหมอได้ตรวจร่างกายและพาไปเอ็กซเรย์ก่อน แล้วนำผลเอ็กซเรย์มาให้คุณหมอดู ซึ่งคุณหมอได้แจ้งว่า อาการเป็นหนักมากอยู่ในระยะการปวดขั้นที่ 3 แล้ว คุณหมอได้อธิบายว่า ถ้าเป็นมากขนาดนี้แล้ว ทานยาก็คงไม่หาย มีวิธีเดียวนั่นคือ การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม และได้อธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ให้ฟัง ซึ่งเมื่อฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด แต่กลับไว้ใจคุณหมอในการผ่าตัดครั้งนี้ เพราะเราก็อยากจะหายด้วย

“ก่อนเริ่มทำการผ่าตัดคุณหมอได้แจ้งว่า ในการผ่าตัดครั้งนี้คุณหมอจะดูก่อนว่าภายในข้อเข่าของเรามีอาการเสียมากน้อยเพียงใด ถ้าเป็นมากคุณหมอจะเปลี่ยนทั้งเข่า แต่ถ้าเป็นน้อยคุณหมอจะพยายามเก็บในส่วนที่ดี ๆ ไว้ให้มากที่สุด โดยจะนำเอาส่วนที่เสียออกเท่านั้น หลังจากนั้นก็เริ่มนัดผ่าตัดมานอนที่โรงพยาบาล หลังจากที่ทำการผ่าตัดเสร็จได้ประมาณ 24 ชั่วโมง ก็สามารถลุกยืนและเดินได้เลย ซึ่งรู้สึกดีใจมากที่เราสามารถเดินลงน้ำหนักที่ขา 2 ข้างได้เต็มที่ งอเข่าได้แบบไม่ปวดเข่า รวมแล้วรักษาตัวทำกายภาพอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด 5 วัน แล้วกลับบ้าน จากนั้นคุณหมอก็นัดมาติดตามอาการของข้อเข่าที่ผ่าตัดไป ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมาก ได้ผลว่าดีเกินคาด คุณหมอจึงให้เดินลงน้ำหนักได้เต็มที่เหมือนปกติ”

คุณวงเดือน ได้บอกเพิ่มเติมอีกว่า อาการปวดเข่า เป็นทั้งสองข้าง ซึ่งในตอนแรกอยากจะให้คุณหมอผ่าตัดพร้อมกันเลย แต่คุณหมอได้แนะนำให้ผ่าตัดทีละข้างเพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้เร็วมากขึ้นที่สุดก่อน ซึ่งที่ผ่าตัดครั้งนี้เป็นข้างซ้าย และขณะนี้กำลังรอการผ่าตัดเข่าข้างขวาอยู่ค่ะ (10 พ.ค. 58)

ด้าน คุณหมอเปรมเสถียร ศิริธนาพิพัฒน์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ-การผ่าตัดข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม ศูนย์ฟื้นฟูข้อเสี่อม โรงพยาบาลเวชธานี ได้เปิดเผยว่า คนไข้รายนี้มีอาชีพขายผัก ซึ่งขายดีมาก ขายดีซะจนไม่มีเวลาที่จะดูแลตัวเอง ซึ่งมาพบหมอครั้งแรกมีอาการปวดเข่าทั้ง 2 ข้าง เป็นมานานหลายปี มีอาการปวดเข่า มากจนบางครั้งเกือบจะเข้าห้องน้ำไม่ทัน และทุกครั้งที่ตื่นเช้ามาต้องเกาะข้างเตียงยันตัวเองเพื่อให้เดิน แต่เนื่องจากขายผักดีมากทำให้ลืมความเจ็บความปวดในช่วงเวลาที่ขายของ พอได้หยุดพักเมื่อไหร่ก็จะเจ็บทุกวันทุกคืน เมื่อเริ่มปวดมากและหาหมออยู่หลายโรงพยาบาล กินยาทุกอย่าง ฉีดยาทุกชนิด สุดท้ายมีคนแนะนำให้มารักษาที่ศูนย์ฟื้นฟูข้อเสื่อม โรงพยาบาลเวชธานี

ในตอนแรกที่คนไข้มาพบหมอ มีอาการปวดเข่ามาก การใช้ชีวิตประจำวันสุดแสนจะลำบากบวกกับอาการขาโก่งมากแต่อายุของคนป่วยยังไม่เยอะมากเพียงแค่ 47 ปีเท่านั้น พอเริ่มฟังจากอาการคนไข้ จึงได้ให้ไปเอ็กซเรย์ก่อน โดยคนไข้มีอาการปวดทั้ง 2 ข้าง แต่หมอได้แนะนำให้ผ่าตัดทีละข้างเนื่องจากมีอาการปวดมาก โดยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมาได้ผ่าตัดข้อเข่าเทียมข้างซ้ายก่อน พอถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 คนไข้สามารถลุกขึ้นยืนและเดินได้เลย และในวันที่ 5 คนไข้สามารถกลับบ้านได้

คนไข้เริ่มที่จะสบายใจมาก เพราะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ และได้มีการนัดมาตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อดูอาการหลังจากผ่าตัด โดยคนไข้ก็มีอาการดีขึ้น ไม่ปวด ได้แจ้งกลับหมอว่าจะมาทำการผ่าตัดอีกข้าง ซึ่งหมอได้นัดทำการผ่าตัดไว้ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2558

สำหรับคนไข้รายนี้มีอาการข้อเข่าเสียเพียงครึ่งเดียว แต่หมอก็ได้เตรียมไว้ให้หมดทั้งผ่าตัดชนิดแบบครึ่งเดียวและการผ่าตัดชนิดแบบทั้งหมด โดยที่เราจะเปิดจากผ่าตัดแผลเล็กทำลายเนื้อเยื่อน้อย และจากนั้นเมื่อตรวจสอบดูว่าเสียแค่ครึ่งเดียวก็ทำการผ่าตัดแค่ครึ่งเดียว

ส่วนในข้อเข่าข้างขวาหมอคงต้องเข้าไปดูก่อนว่าถ้าเข่าเสียครึ่งเดียวก็เปลี่ยนครึ่งเดียว ถ้าเสียหมดก็ต้องทำการเปลี่ยนหมด ซึ่งหมอจะพยายามเก็บของที่เป็นธรรมชาติที่เป็นของคนไข้ซึ่งใช้ในการขยับและการเดินไว้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนไข้กลับไปเดินได้เหมือนธรรมชาติได้มากที่สุด

ข้อดีของการเปลี่ยนเฉพาะข้อเข่าที่เสียบางส่วนเก็บของที่ดี ๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด ทำให้คนไข้รู้สึกว่า เข่าตนเองยังเป็นธรรมชาติเหมือนดั้งเดิม และเนื่องจาก การผ่าตัดจะกำจัดส่วนที่เป็นส่วนเสียออกไปเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ทำลายส่วนดีออกไป ทำให้คนไข้เดินได้เร็วมากภายใน 24 ชั่วโมง ก็สามารถเดินได้ รวมถึงคนไข้เสียเลือดในขณะและหลังผ่าตัดน้อยมาก ทำให้ลดความเสี่ยงและความจำเป็นในการรับเลือดหลังผ่าตัด ความเจ็บปวดน้อยลง และคนไข้กลับไปใช้ชีวิตทั้งในการ เหยียดเข่า งอเข่า เดินได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนข้อเสีย เนื่องจากมันเป็นการผ่าตัดที่ไม่ได้ทำโดยทั่วไป ต้องใช้ศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการผ่าตัดเพื่อจะได้พิจารณาวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสม เพราะถ้าทำการผ่าตัดด้วยเหตุที่ไม่เหมาะสม อาจมีความเสี่ยงสูง เช่น ถ้าเข่ามีอาการปวดมาก แต่แพทย์ไม่มีความชำนาญในการผ่าตัด อาจทำให้คนไข้กลับมาปวดเข่าได้อีก นอกจากนี้การวางตำแหน่งของข้อเข่าแบบครึ่งเดียวแบบนี้ต้องวางให้เหมาะสม ไม่ให้ตึงเกินไปไม่ให้หย่อนเกินไป ต้องทำให้เข่าคนไข้กลับมามีความสมดุลได้มากที่สุด
ขั้นตอนการดูแลหลังการผ่าตัด แพทย์ต้องพึงระลึกเสมอว่า จะต้องให้คนไข้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิมตามปกติ เพราะการผ่าตัดด้วยวิธีนี้ ข้อเข่าเทียมที่ใช้อาจจะมีอายุการใช้งาน 10 – 20 ปี ผู้ป่วยต้องดูแลตนเองไม่ให้อ้วนเกินไป ระมัดระวังอุบัติเหตุ ดำเนินชีวิตให้ใช้เหมือนเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม สามารถออกกำลังกายได้ เดินได้ งอเข่าได้ ขึ้นลงบันไดหมอก็ไม่ได้ห้าม เพราะว่าข้อเข่าสมัยนี้มีความทนทานมาก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์ฟื้นฟูข้อเสื่อม ชั้น 1 อาคาร King of Bones โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000 ต่อ 2222 , 2224