ก่อนอื่น เราต้องรู้ถึงอัตราการเจริญเติบโต ของเด็กโดยทั่วไปก่อนค่ะ ว่าลูกของเราเข้าเกณฑ์การเจริญที่ปกติหรือไม่ ทำง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถหยิบสมุดวัคซีน และสมุดพกของลูกมาดูกราฟการเจริญเติบโตได้ว่าความสูงและน้ำหนักของลูกตกเกณฑ์หรือไม่ โดยอัตราการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ จะเป็นตามตารางข้างล่างนี้ค่ะ
ตารางที่ 1 อัตราการเจริญเติบโตปกติ
ช่วงอายุ | อัตราการเพิ่มความสูง (ซ.ม.)ต่อปี |
แรกเกิด – 1 ปี | 23 – 27 |
อายุ 1 – 2 ปี | 10 – 12 |
อายุ 2 – 4 ปี | 6 – 7 |
ก่อนเข้าวัยรุ่น | 4 – 5.5 |
ช่วงเข้าวัยรุ่น 2 ปีแรก | |
เด็กหญิง | 7 – 10 |
เด็กชาย | 8 – 12 |
เด็ก ๆ จะมีความสูงตามตาราง จนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น จะมีช่วงที่มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว (Pubertal growth spurt) เป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี และเด็กหญิงจะหยุดการเจริญเติบโต เมื่ออายุประมาณ 14 – 16 ปี หรืออายุกระดูก 18 ปีส่วนเด็กผู้ชายจะหยุดการเจริญเติบโต เมื่ออายุประมาณ 16-18 ปี หรือ มีเสียงแตกมาแล้วประมาณ 4 ปี
ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต
- ความสูงของพ่อแม่ (กรรมพันธุ์) พ่อแม่สูงลูกย่อมสูงกว่าเด็กที่ พ่อแม่ตัวเล็กค่ะ
- ภาวะโภชนาการ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และสมดุล
- การออกกำลังกาย เพื่อการพัฒนาของกระดูกและกล้ามเนื้อ อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- สุขภาพร่างกาย การมีโรคประจำตัว เช่นโรคหัวใจ หรือ โรคปอดเรื้อรัง ภูมิแพ้เรื้อรัง จะมีผลต่อการเจริญเติบโต
- ฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตค่ะ เช่น ฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ,ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid Hormone),ฮอร์โมน (Sex Hormone),ฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoid hormone)
ความสูงของพ่อและแม่ เราสามารถประเมินได้ว่าลูกของเราจะสูงได้ประมาณเท่าไร โดยคิดสูตรดังนี้ค่ะ
นำความสูงของคุณพ่อเป็นเซนติเมตรกับความสูงของคุณแม่เป็นเซนติเมตรมาบวกกัน
- ถ้าเป็นเด็กชายให้เอา 13 มาบวกเพิ่ม แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้มาหารด้วย 2 จะได้ความสูงสุดท้ายที่ควรจะเป็น เป็นเซนติเมตรของเด็กชาย ความเป็นไปได้ของความสูงสุดท้ายจะอยู่ในช่วง+- 10 เซนติเมตร
- ถ้าเป็นเด็กหญิงให้เอา 13 มาลบออก แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้มาหารด้วย 2 จะได้ความสูงสุดท้ายที่ควรจะเป็น เป็นเซนติเมตรของเด็กหญิง ความเป็นไปได้ของความสูงสุดท้ายจะอยู่ในช่วง+- 9 เซนติเมตร
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม แม้ลูกจะสูงได้ตามเกณฑ์แล้ว แต่พ่อแม่ทุกคนก็ต้องการให้ลูกสูงที่สุดที่ตามเกณฑ์ศักยภาพความสูงของลูก จริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ
การออกกาลังกายที่จะช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของร่างกาย ที่สาคัญ ควรเป็นกิจกรรมที่มีแรงกระแทกจากการกระโดด ซึ่งเป็นเหมือนการกระตุ้นข้อต่อกระดูกให้มีการยืดตัวขึ้น เพิ่มความยาวของกระดูกสันหลัง และเวลาเดียวกันยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องได้อีกด้วย โดยการออกกาลังกายที่พอเหมาะประมาณ 45 – 60 นาที/วัน ตัวอย่างของการออกกาลังกายที่ช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโต ได้แก่
- การวิ่ง แต่หากวิ่งมากเกินไปอาจทาให้เกิดอาการปวดบวม หรือหกล้มได้ในเด็กเล็ก ดังนั้นอาจเลือกเป็นวิ่งบนพื้นดิน หรือสนามหญ้าเป็นต้น
- การกระโดด ยืนตรงแยกขาออกเล็กน้อย จากนั้นกระโดดด้วยเท้าเพียงข้างเดียวให้สุด ทาซ้าแบบเดียวกันประมาณ 10 ครั้ง สลับทั้งสองข้าง
- การขี่จักรยาน เป็นกิจกรรมที่ทาให้เท้าของเรายืดเหยียดตลอดระยะเวลาที่ปั่นจักรยาน
- การว่ายน้า โดยว่ายท่าผีเสื้อเป็นเวลา 20 นาที เป็นท่าที่เหมาะสมที่สุดเพราะร่างกายได้ออกกาลังช่วงหลัง ไหล่ และช่วงแขนอย่างเต็มที่ แต่ถ้าไม่สะดวกท่าอื่นๆ ก็สามารถช่วยได้เดียวกัน
- กระโดดเชือก โดยเป็นการกระโดดทั้งตัว ซึ่งจะทาให้ช่วงขา และช่วงหลังได้ยืดเหยียดไปพร้อมๆ กัน โหนบาร์ เป็นการยืดกล้ามเนื้อหลังอย่างเต็มที่ รวมช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือ และแขนได้เป็นอย่างดี
- การเตะขา เพียงแค่ยืนแยกขาออกแล้วเตะขาข้างหนึ่งไปด้านหน้า ทาแบบนี้อย่างน้อยข้างละ 20 ครั้ง ก็ช่วยยืดกระดูกช่วงหน้าแข้งได้เช่นเดียวกัน
- การใช้แทรมโพลีน (Trampoline) เป็นการออกกาลังกาย โดยอาศัยเทคนิคการกระตุ้นในแนวดิ่ง ซึ่งจากการอ้างอิงขององค์การนาซ่า (NASA) ระบุว่าเป็นการออกกาลังกายที่ดีที่สุด เพราะถือเป็นการออกกาลังกายของเซลล์ในทุกส่วนของร่างกาย เพียงแค่วันละ 20 นาที ซึ่งการออกกาลังกายจากการกระโดดบนแทรมโพลีนจะช่วยยืดกล้ามเนื้อที่เหมาะสมสาหรับการเพิ่มความสูง (Proper Stretching and Exercising Techniques) เพราะจะทาให้กระดูกหนาและแข็งแรงขึ้นจากการกระตุ้นการหลั่งสาร Growth Hormone ทาให้ความหนาที่เพิ่มขึ้นของกระดูกขาจะช่วยเพิ่มความสูงได้อย่างน้อย 2.5 เซนติเมตร ซึ่งถ้าหากออกกาลังกายอย่างถูกต้อง และเหมาะสมก็จะช่วยเพิ่มความสูงได้มากถึง 5 เซนติเมตร
โภชนาการ
การ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารประเภทโปรตีน เนื้อสัตว์ ไข่ นม ดื่มนมวัว เนื่องจากมีแคลเซียมสูงวันละ 2-3 กล่อง จะทาให้ได้แคลเซียมปริมาณที่เหมาะสมที่จะช่วยบารุงกระดูกให้แข็งแรง และแนะนาให้ลดอาหารประเภท แป้ง น้าตาล เช่น ขนมถุง น้าหวาน และประเภทไขมัน เพราะจะทาให้สะสมในรูปไขมันส่วนเกินได้
ควรนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ
ในวัยรุ่นไม่ควรน้อยกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากฮอร์โมนการเจริญเติบโตจะหลั่งได้ดีช่วงนอนหลับสนิท และควรเข้านอนแต่หัวค่ำ ไม่ควรเกิน 22.00 น ค่ะ
เท่านี้ ลูก ๆ ของเราก็จะสูงได้ตามศักยภาพของพันธุกรรม แล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าหาก คุณพ่อคุณแม่ท่านใด ลองตรวจสอบกราฟความสูงของลูกแล้วพบว่าลูกตัวเล็ก หรือเตี้ยกว่าเกณฑ์ ท่านไม่ควรหลงเชื่อ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ขายอยู่ตาม เวป ต่าง ๆ แต่ ท่านควรปรึกษากับกุมารแพทย์ประจำของลูก หรือ พบกุมารแพทย์ต่อมไร้ท่อค่ะ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์กุมารเวชกรรม โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 0-27340000 ต่อ 3310, 3312, 3319
- Readers Rating
- Rated 4.5 stars
4.5 / 5 (Reviewers) - Outstanding
- Your Rating