โรคอ้วน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ฯลฯ ส่งผลให้แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตกว่า 2.8ล้านคน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่า ในปี 2558ทั่วโลกจะมีคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานถึง 2,300ล้านคน และมีคนอ้วนถึง 700ล้านคน ทำให้คนอ้วนจำเป็นต้องลดน้ำหนักลงเพื่อไม่ให้เกิดโรคภัยร้ายแรงแก่ตัวเอง
ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้มีการรักษาโรคอ้วนแบบใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องผ่าตัด ทีมแพทย์ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลเวชธานี ได้ให้ข้อมูลว่า บอลลูนลดความอ้วนเป็นที่ยอมรับมานานในต่างประเทศ ซึ่งเป็นเทคนิคการลดความอ้วนแบบใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัด ทำได้โดยการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ด้วยการส่องกล้อง ซึ่งตัวบอลลูนที่ใส่ลงในกระเพาะอาหารจะทำให้รู้สึกอิ่มตลอดเวลาและจะทำให้รับประทานอาหารได้ลดลงกว่าเดิม มีภาวะแทรกซ้อนน้อย และโดยเฉลี่ยสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 24กิโลกรัม ภายใน 1ปี
ทั้งนี้ วิธีการลดน้ำหนัก คนอ้วนด้วยการใส่บอลลูนนี้จะเหมือนส่องกล้องกระเพาะอาหารทั่วไป หลังจากนั้นจะใส่น้ำที่ผสมกับสารสีฟ้าที่เรียกว่าเมธิลีนบลูเข้าไปในบอลลูนประมาณ 400 – 500ซีซี แล้วจึงนำกล้องออก โดยบอลลูนสามารถปรับขนาดเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการในภายหลัง บอลลูนที่ใส่ในกระเพาะนั้นสามารถใส่ได้นานสูงสุด 1ปี แต่หากพอใจในน้ำหนักที่ลดลง ก็สามารถเอาบอลลูนออกก่อน 1ปี โดยปล่อยน้ำในลูกบอลลูนออก และส่องกล้องเพื่อนำลูกบอลลูนออกจากร่างกาย
สำหรับปัญหาภาวะแทรกซ้อนจากการใส่บอลลูนสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนั้น โดยรวมพบเพียง 0.27%เมื่อเทียบกับการผ่าตัดกระเพาะอาหารลดความอ้วน ที่มีภาวะแทรกซ้อนมากถึง 7-9%ภาวะแทรกซ้อนของการใส่บอลลูนส่วนใหญ่จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้องช่วงสัปดาห์แรกหลังใส่บอลลูน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลเวชธานี