เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน โรคที่ต้องระวังในเด็กคือ โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจะพบได้บ่อยในช่วงนี้ เนื่องจากอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ร่างกายอาจจะปรับสภาพได้ไม่ทัน อีกทั้งฤดูฝนมีการระบาดของเชื้อโรค ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบหายใจหลายชนิด ทำให้เกิดการเจ็บป่วยของโรคระบบหายใจได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
พญ.มณินทร วรรณรัตน์ กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ โรงพยาบาลเวชธานี ได้ให้ข้อมูลว่า โรคระบบทางเดินหายใจ หมายถึง โรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอวัยวะในระบบนี้เริ่มตั้งแต่ จมูก คอ ไซนัส กล่องเสียง หลอดลมและปอด ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อย และมีอาการตั้งแต่รุนแรงน้อยจนถึงมาก
ทั้งนี้ โรคหวัดในเด็กวัยเรียนที่ถือว่าเป็นปกติประมาณปีละ 6 – 8 ครั้ง สาเหตุของโรคหวัดในเด็กมากกว่า 60-70% เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งมีมากมาย ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบหายใจมีมากกว่า 200 ชนิดขึ้นไป โดยไซโนไวรัสเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุดและนอกจากนี้ อาจจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้ หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะทำให้มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เจ็บคอ ไอจาม คัดจมูก แสบตา น้ำตาไหล ตาแดง ส่วนใหญ่จะมีอาการอยู่ประมาณ 5-7 วัน ก็จะหายเป็นปกติ ถ้าเป็นหวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยมักจะมีอาการไข้สูง บางรายอาจหนาวสั่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ซึ่งลักษณะของน้ำมูกมักจะมีสีเขียวปนเหลืองให้เห็นตั้งแต่วันแรกๆ ของโรค อาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอ และกดเจ็บร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะ หรือยาแก้อักเสบร่วมกับการรักษาตามอาการ
ส่วนโรคหลอดลมอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ อาการโดยทั่วไปมักเริ่มด้วยอาการของโรคหวัดนำมาก่อน เช่น ไข้ น้ำมูกใส ต่อมามีอาการไอ เริ่มต้นมักจะไอแห้งๆ แล้วตามมาด้วยไอมีเสมหะขาวใส หรือเหลือง ขึ้นกับชนิดของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอาการ เป็นได้ทั้งเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย อาการไอเป็นอาการเด่นที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์ บางคนจะให้ประวัติว่าไอ มากจนอาเจียน หรือไอจนนอนไม่ได้ บางครั้งจะมีลักษณะของอาการหอบร่วมด้วย
ขณะที่ โรคปอดอักเสบ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อปอดเอง พบได้ในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และมักจะรุนแรงมากกว่า เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโรคติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อาการที่พบจะประกอบด้วย ไข้ ไอ หายใจหอบ หรือหายใจลำบาก ในเด็กเล็กมักจะมีอาการงอแงมากกว่าปกติ ไม่ยอมกินอาหารและน้ำ แยกจากภาวะหลอดลมอักเสบ ได้จากการตรวจร่างกาย จะฟังได้ยินเสียงผิดปกติของปอด สาเหตุมักเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งพบได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย นอกจากนั้น อาจเกิดจากการสูดสำลักอาหาร และน้ำ รวมทั้งสารเคมีต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา ในเด็กที่เป็นปอดอักเสบหลายๆ ครั้ง อาจจะทำให้เกิดความผิดปกติของทางเดินหายใจอย่างถาวรได้ เช่น ทำให้เกิดเป็นโรคถุงลมปอดโป่งพอง , โรคหลอดลมตีบแคบได้ง่ายเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น
ดังนั้นเด็กที่ติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่ผู้ปกครองควรนำมาพบแพทย์ ได้แก่ เด็กอายุน้อย โดยเฉพาะน้อยกว่า 3 เดือน , ไข้สูงหายใจหอบ , ปวดบริเวณโพรงจมูก , ปฎิเสธไม่ยอมรับอาหารและน้ำ , อาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์
เมื่อทราบถึงอาการของโรคระบบทางเดินหายใจกันแล้ว ในช่วงฝนตกแบบนี้ คุณพ่อ คุณแม่ที่ลูกเล็ก ๆ ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเด็ก ๆ จะมีภูมิต้านทานน้อย การรักษาอาจจะหายช้ากว่าปกติได้ ควรให้การดูแลที่เหมาะสมเพื่อเป็นการป้องกันตัวอย่างเช่น การจัดสิ่งแวดล้อมในบ้านที่อยู่อาศัยให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่เข้าไปบริเวณที่มีคนแออัดจำนวนมาก ล้างมือก่อนรับประทานขนม หรืออาหาร รวมทั้งมีการออกกำลังกายที่เหมาะสม กินอาหารครบ 5 หมู่ รวมทั้งดื่มน้ำสะอาดก็จะช่วยให้โอกาสการติดเชื้อลดลง นอกจากนี้ ในปัจจุบันก็มีวิวัฒนาการของวัคซีนต่างๆ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ , วัคซีนไอพีดี ที่สามารถป้องกันโรคติดเชื้อทางระบบหายใจที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์กุมารเวชกรรม โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 0-27340000 ต่อ 3310, 3312, 3319
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (Reviewers) - Spectacular
- Your Rating