พอก้าวเข้าสู่วัยเลข 4 นำหน้า เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนคงกังวลไม่น้อยกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีผลทางร่างกาย และจิตใจ ภาวะที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นจากการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนในรังไข่ลดลง
สิ่งที่เห็นได้ชัดหลังฮอร์โมนเพศหญิงผลิตน้อยลงของสาวใหญ่ทั้งหลาย ก็คือภาวะทางอารมณ์ขึ้นๆ ลงง่ายๆ ขี้หงุดหงิด รวมถึงระบบการทำงานของร่างกายมีประสิทธิภาพไม่ดีเหมือนสมัยสาวๆ
ด้านนายแพทย์ อรรถสิทธิ์ อมรถนอมโชค ได้แนะนำว่า อาการดังกล่าวเป็นผลจากภาวะวัยทอง ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว การดูแลตัวเองก็ต้องละเอียดรอบคอบมาก ยิ่งขึ้น เพราะผู้หญิงที่อายุ 40 ขึ้นไป ระบบการทำงานของร่างกายจะไม่แข็งแรงเหมือนก่อน เราจึงต้องหาวิธีเสริม และสร้าง ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีวิตามินและอาหารเสริมให้เลือกหลายหลาย แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับร่างกายด้วย ซึ่งอาจจะพิจารณาเพื่อนำมาใช้ในการช่วยการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมดังนี้
1. Soy isoflavone สารสกัดในกลุ่ม flavanoids
ซึ่งสกัด ออกมาจากถั่วเหลือง โดยพบว่า soy isflavone เมื่อร่างกายรับเข้าไป แล้วก็จะถูกเปลี่ยนเป็นสารสารสกัด จากพืชที่ออกฤทธิ์ เหมือนฮอร์โมน เอสโตรเจน จะช่วยลด อาการร้อนวูบวาบตามตัว หงุดหงิดง่าย ป้องกันไม่ให้ ผิวพรรณเหี่ยวหย่น หรือแห้งเกินไป นอกจากนี้ งานวิจัย ล่าสุดส่วนใหญ่บ่งชี้ไปทางเดียวกันว่า สามารถช่วยลด ปัญหาการเกิดโรคกระดูกบาง, กระดูกพรุนได้ หากรับประ ทานอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญตัว Soy isoflavone ไม่ได้มีผล ในการเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิงจึงคลาย ความกังวล ได้ว่าจะไม่มีผลอันตรายต่อการเกิดปัญหามะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูกได้ แม้ว่าจะใช้เป็นเวลานานๆ
2. Black Cohosh
เป็นสมุนไพรที่นำส่วนของรากมาใช้สกัดเป็นสารออกฤทธิ์ ปัจจุบันเป็นที่ใช้อย่างแพร่หลาย ในด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งช่วยในเรื่องการลดอาการปวดศีรษะบ่อยๆ ใจสั่น นอนไม่หลับ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออก และอารมณ์แปรปรวน ซึ่งสมุนไพรตัวนี้ก็พบว่ามีการนำมาใช้ในผู้ป่วยสูติ-นรีเวชด้วย เนื่องจากอาการดังกล่าวสร้าง ความรำคาญหงุดหงิดให้กับคุณผู้หญิงไม่น้อย การหันมาใช้ Black Cohosh ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าจะพิจารณา มากกว่าการแก้ปัญหาด้วยการทานยานอนหลับ
3. Vitamin D
ถ้าพูดถึงวิตามินดี ทุกคนคงนึกถึงสรรพคุณในการป้องกันโรคกระดูกบางหรือพรุนที่พบได้ บ่อยในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน และคิดว่าวิตามินดีไม่จำเป็นต้องไปเสริม เพราะการโดนแดดจะทำให้ร่างกายเรา ได้รับวิตามินดีเพียงพอ แต่จริงๆแล้วในปัจจุบันเราพบว่าคนไทยขาดวิตามินดีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคนไทย กลัวแดด กลัวผิวคล้ำ มีรอยด่างดำ และเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังมากด้วย ซึ่งในงานวิจัยปัจจุบันเราพบว่าผู้ที่มีระดับ วิตามินดีในเลือดสูงมากกว่า 50 ug/dl ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงได้มากถึง4อย่าง คือ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคกระดูก และโรคแพ้ภูมิตนเอง นอกจากนี้มีงานวิจัยที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ของผู้ที่มี สุขภาพดีและอายุยืนคู่กับการมีระดับวิตามินดีในเลือดสูงอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ต้องตรวจดูระดับวิตามินดี และกินวิตามินดีทดแทน เพราะการตรวจดูระดับวิตามินดีจากเลือดจะช่วยในการพิจาณาถึงปริมาณของวิตามินดีที่จะ กินเสริม ซึ่งในผู้ป่วยแต่ละคนอาจจะต้องการใช้มากน้อยไม่เท่ากัน
4. Calcium
ถือว่าเป็นแร่ธาตุที่คนทั่วไปรู้จักดี โดยอยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ นม ที่อุดมด้วย แคลเซียม แต่ถ้าเรามีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน ไขมันใน เลือดสูง ก็ควรเลือกอาหารประเภทงา งาดำ ถั่วต่างๆ จะได้แคลเซียมเช่นเดียวกัน ซึ่งปัญหาของการได้รับ แคลเซียมไม่เพียงพอก็คือเรื่องการ ดูดซึม คนทั่วไป คิดว่ากินแคลเซียมเสริมเป็นเม็ดๆหรือเม็ดฟู่บ้าง ก็จะได้ แคลเซียมที่เพียงพอ แต่จริงๆ แล้วการกินแคลเซียม เข้าไปร่างกายอาจดูดซึมได้ไม่ถึง20% เพราะฉะนั้น เราจะได้ประโยชน์จากการกินแคลเซียมเสริม ต้องรู้ก่อน ว่าร่างกายเราจะดูดซึมแคลเซียมได้ดีหรือไม่
5. Red yeast rice
สมุนไพรตัวนี้ที่จีนใช้กันมานาน โดยเอามาทาเคลือบผิวเป็ดปักกิ่ง อีกทั้งยังมีสรรพคุณ เรื่องการลดระดับไขมันคลอเลสเตอรอล ทั้งชนิดรวมและชนิดไม่ดี ซึ่งมีการศึกษาวิจัยจากทั้งที่จีนและอิตาลี โดยนำ เอามาใช้ลดระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยที่เริ่มมีปัญหาไขมันคลอเลสเตอรอลระดับรุนแรงน้อยถึงปานกลางได้ดี คุณผู้หญิงที่เข้าวัยทองส่วนมากอาจจะต้องเริ่มพึ่งเจ้าสมุนไพรตัวนี้ เพราะการที่ฮอร์โมนเพศหญิงลดลงจะส่งผลในแง่ ระบบการเผาพลาญมีปัญหา ไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดก็จะสูงขึ้นได้
6. Anti-oxidant
วิตามินในกลุ่มนี้ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี สารกลุ่มแคโรทีน ไลโคพีน โคเอมไซม์ คิวเท็น สารสกัดเมล็ดองุ่น สารสกัดเปลือก สนฝรั่งเศส แอสต้าแซนทิน และ เรสเวอลาทอร์ เป็นสารกลุ่มต้าน อนุมูลอิสระ ที่ช่วยมากในการป้องกันการเกิดโรค ทั้งโรค หลอดเลือดอุดตันหัวใจและสมอง ลดการสร้างสาร เบต้าอไมลอยด์ในสมอง ที่เป็นต้นเหตุของโรค ความจำเสื่อม ลดการทำลายของคลอลาเจนที่ผิวพรรณ เสริมภูมิต้านทาน ลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง
ปัจจุบันเราสามารถตรวจจากเลือดว่าเรามีการขาด สารพวกนี้หรือ ถ้าพบมีการขาดจริงก็ค่อยกินเสริมจะได้เกิด ประโยชน์ และไม่ต้องเสี่ยงที่จะต้องเสียเงินฟรีเพราะว่า ร่างกายได้รับเพียงพออยู่แล้ว ส่วนสารต้านอนุมูลอิสระบาง ตัวก็อาจจะยังตรวจจากเลือดไม่ได้ ซึ่งควรให้ปรึกษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจก่อนว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรค หรือไม่ โดยดูผลจากการตรวจสุขภาพ การปฏิบัติตัวและประวัติในครอบครัวร่วมด้วย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Vejthani Q-Life โทร. 02-734-0000 ต่อ 1125
- Readers Rating
- Rated 3.4 stars
3.4 / 5 (Reviewers) - Very Good
- Your Rating