การเกิดโรคกระดูกสันหลังเสื่อม ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากสาเหตุหลักๆ 2 ปัจจัย ได้แก่
- เกิดจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งถ้าผู้ป่วยรายใดที่มีการใช้งานมากๆ มีภาระกับหลังมาก ๆ ก็จะเกิดกระดูกสันหลังเสื่อมได้ไวกว่า
- เกิดจากอายุ เมื่ออายุมากขึ้นทุกวันอวัยวะต่างๆ รวมถึงกระดูกสันหลังก็ย่อมเสื่อมลงทุกวัน เป็นต้น
ฉะนั้นไม่ว่าใครก็ตาม มีปัจจัย 2 ข้อนี้ครบ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกสันหลังเสื่อมได้
อาการของโรคกระดูกสันหลังเสื่อม
- เมื่อหลังมีอาการเสื่อมของกระดูกสันหลังขึ้น ทำให้หลังไม่สามารถรับน้ำหนักในร่างกายได้ อาการแรกที่จะเกิดขึ้นคือ อาการปวดหลัง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกิจกรรมบางอย่างเช่น การยืนนาน นั่งนาน หรือเดิน และจะเริ่มมีอาการปวดหลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับของความเสื่อม
- อาการที่เกิดจากการกดทับบริเวณรากประสาทไขสันหลัง ทำให้ปวดหลัง และปวดร้าวจากหลังลงไปที่ขาถึงเท้า และมีอาการชา รวมไปถึงอาการอ่อนแรงได้
สำหรับขั้นตอนการรักษาของโรคกระดูกสันหลังเสื่อม แพทย์จะรักษาตามขั้นตอนโดยเริ่มจากการใช้ยา
กายภาพบำบัด การฉีดยาเข้าบริเวณโพรงประสาทสันหลังไป จนถึงการผ่าตัดหลัง โดยเป้าหมายในการผ่าตัดหลังนั้นหลัก ๆ จะเป็นการแก้ไขปัญหา 2 จุด คือ การกดทับของเส้นประสาท แพทย์จะทำการผ่าตัดขยายโพรงประสาทสันหลัง และปัญหาความไม่มั่นคงของกระดูกสันหลัง หรือกระดูกสันหลังเคลื่อน แพทย์จะทำการผ่าตัดโดยการใส่โลหะยึดตรึงข้อกระดูกให้แน่นขึ้น
ปัจจุบันการรักษาโดยการผ่าตัดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ
- การผ่าตัดแบบเปิดแผลทั่วไป
- การผ่าตัดแบบแผลเล็ก (MIS: Minimally Invasive Surgery) เป็นการผ่าตัดโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
เช่น การผ่าตัดส่องกล้อง เพื่อจะลดขนาดของแผลผ่าตัด รวมถึงทำให้สามารถเห็นบริเวณที่ทำการผ่าตัดได้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการใส่โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลังด้วยระบบนำวิถี (Navigator) ช่วยให้สามารถใส่โลหะยึดตรึงกระดูกได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้การผ่าตัดแผลเล็ก จะส่งผลให้มีการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อของผู้ป่วยน้อย อาการปวดหลังผ่าตัดลดลง การฟื้นตัวไวขึ้น ซึ่งผู้ป่วยจะใช้เวลาในการพักฟื้นหลังการผ่าตัดเพียง 1–2 คืน ก็สามารถกลับบ้านได้
โดย.. http://health.sanook.com/3421/
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000 ต่อ 5500
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (Reviewers) - Spectacular
- Your Rating