นวัตกรรมลดอ้วนด้วยบอลลูนในกระเพาะอาหาร - โรงพยาบาลเวชธานี

บทความสุขภาพ

นวัตกรรมลดอ้วนด้วยบอลลูนในกระเพาะอาหาร

Share:

จากความไว้วางใจของลูกค้ากว่า 150 ราย ที่ให้โรงพยาบาลเวชธานีได้ดูแลผู้ที่เป็นโรคอ้วน กับนวัตกรรมลดอ้วนด้วยบอลลูนในกระเพราะอาหาร คุณครูเบิร์ด หรือ คุณอรุโณทัย ทรัพย์วารี หนึ่งในผู้ประสบภาวะโรคอ้วน ด้วยน้ำหนักตัว 95 กิโลกรัม ก่อนพบแพทย์ ใช้เวลาเพียง 1 ปี สามารถลดไปถึง 28 กิโลกรัม ขณะนี้ คุณครูเบิร์ดน้ำหนักอยู่ที่ 67 กิโลกรัม ทำให้ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็กระฉับกระเฉงไปซะหมด

คุณครูเบิร์ด เริ่มเล่าว่า ก่อนมาพบแพทย์เริ่มมีโรคประจำตัวหลายโรค ที่กวนใจมากที่สุด คือ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ลุก ขยับ เดิน หรือขี่จักรยานนิดหน่อย ก็มักรู้สึกวูบ ไปหาหมออยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่หาย อาการไม่ดีขึ้น จนกระทั่งมีเพื่อนแนะนำว่า ที่โรงพยาบาลเวชธานีมีการลดความอ้วนรูปแบบใหม่ ไม่ต้องผ่าตัดด้วยการใส่บอลลูน

เริ่มหาข้อมูลและมาพบแพทย์
หลังจากนั้นเริ่มหาข้อมูลต่าง ๆ และมั่นใจว่าไม่มีอันตราย จึงเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลเวชธานี และได้ตัดสินใจใส่บอลลูนในวันดังกล่าวทันที ผ่านไปได้ 1 เดือน น้ำหนักตัวลดลงมากกกว่า 12 กิโลกรัม

อาการแทรกซ้อน
ช่วงแรกที่ใส่บอลลูน จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แต่ประมาณสัปดาห์ที่ 3 อาการต่าง ๆ ก็ดีขึ้น เลี่ยงรับประทานแป้ง และน้ำอัดลม หลังจากนั้น เริ่มรับประทานอาหารต่าง ๆ ได้ตามปกติ แต่จะรับประทานได้น้อยกว่าเดิม

คุณหมอนัดดูอาการเป็นระยะ
หลังจากพอเริ่มครบ 6 เดือน คุณหมอเริ่มใส่น้ำในบอลลูนเพิ่มเข้าไปอีก เพื่อเป็นการปรับให้ร่างกายลดการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ คุณหมอยังได้จัดโปรแกรมอาหารไว้ให้รับประทานด้วย

ด้าน นพ.สุขประเสริฐ จุฑากอเกียรติ อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลเวชธานี หนึ่งในทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคอ้วน มีด้วยกันหลายสาเหตุ เริ่มตั้งแต่พฤติกรรมการทานตามใจปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจำพวก คาร์โบไฮเดรต แป้ง อาหารหวาน ของหวาน เบเกอรี่ ขาดการออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายน้อย ซึ่งนอกจากอาหารและการออกกำลังกายแล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กรรมพันธุ์, โรคบางชนิด อาทิ ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือคนไข้ที่กินยาบางชนิด เช่น ยาคุม สเตียรอยด์ เป็นต้น

นวัตกรรมการรักษาโรคอ้วน การลดความอ้วนแต่เดิมจะนิยมรับประทานยาลดน้ำหนัก การผ่าตัดรัดกระเพาะอาหาร หรือการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร แต่ปัจจุบันด้วยนวัตกรรมการลดน้ำหนักเทคนิคใหม่ สามารถรักษาโรคอ้วนโดยการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร โดยการส่องกล้อง ซึ่งตัวบอลลูนจะเป็นซิลิโคนทางการแพทย์ และบรรจุน้ำเข้าไปในบอลลูนประมาณ 400-500 ซีซี ตามหลักการ บอลลูนที่ใส่ในกระเพาะอาหารจะทำให้รู้สึกอิ่ม และรับประทานอาหารได้น้อยลง

ผลข้างเคียง สำหรับผลข้างเคียงของการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร จะมีอาการจุกเสียดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ในช่วงสัปดาห์แรก หลังจากนั้นอาการที่กล่าวมาจะเริ่มดีขึ้น และหากรับประทานอาหารมากเกินไปจะรู้สึกจุก ทั้งนี้ บอลลูนในกระเพาะอาหารจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี หลังจากครบ 1 ปี แล้วคนไข้จะต้องมาส่องกล้องเพื่อนำบอลลูนออก

แพทย์เตือน การใส่บอลลูนเพื่อความสวยความงาม ปกติแพทย์จะไม่แนะนำ หากน้ำหนักตัวไม่ได้มากจนเกินไป และควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการลดความอ้วนโดยไม่ต้องการผ่าตัด นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน สามารถทำได้ด้วยการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ซึ่งบอลลูนในกระเพาะอาหาร จะทำให้รู้สึกอิ่มตลอดเวลา และรับประทานอาหารได้ลดลงกว่าเดิม มีภาวะแทรกซ้อนน้อย สามารถลดน้ำหนักโดยเฉลี่ย ได้ถึง 24 กิโลกรัม ภายใน 1 ปี วิธีดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศมาแล้วกว่า 10 ปี

  • Readers Rating
  • Rated 5 stars
    5 / 5 (1 )
  • Your Rating