ปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณผู้หญิง คือการมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าช่วงนั้นจะไม่ได้เป็นช่วงที่มีประจำเดือนก็ตาม
แพทย์หญิงจุฑาธิป พูนศรัทธา สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า การมีเลือดออกหลังเพศสัมพันธ์ (Postcoital bleeding) อาจมีสาเหตุได้ตั้งแต่การติดเชื้อธรรมดาไปจนถึงมะเร็งบางชนิด เลือดที่ออกอาจมาจากบริเวณภายนอกช่องคลอด ในช่องคลอด ปากมดลูก หรือในมดลูกได้
สาเหตุที่พบได้เมื่อมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
- การติดเชื้อ เช่น เชื้อหนองใน, คลาไมเดีย, ทริโคโมแนส ซึ่งทำให้ปากมดลูกอักเสบ หรือมีการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- ปากมดลูกปลิ้น (Ectropion) ฟังดูน่าตกใจ แต่ไม่ได้เป็นภาวะร้ายแรงอะไร เกิดจากเซลล์อ่อนด้านในปากมดลูกกระจายออกมาอยู่ที่พื้นผิวปากมดลูก เมื่อไปโดนหรือมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีเลือดออกเล็กน้อยได้ ลักษณะปากมดลูกปลิ้นนี้อาจพบได้ในสตรีตั้งครรภ์ หลังคลอด วัยรุ่น หรือการกินยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไร
- ติ่งเนื้อ ที่ปากมดลูก หรือเนื้องอกในโพรงมดลูกยื่นออกมา
- ช่องคลอดแห้ง จากการขาดฮอร์โมนหรือภาวะวัยทอง
- มีแผลถลอก หรือฉีกขาดที่ปากช่องคลอด หรือด้านในช่องคลอด เช่น แผลเย็บหลังคลอด หลังการผ่าตัด หรือแผลจากการมีเพศสัมพันธ์
- เซลล์ปากมดลูกผิดปกติ เป็นระยะก่อนเป็นมะเร็ง หรือมะเร็งปากมดลูก
จะเห็นได้ว่าการมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ มีสาเหตุที่หลากหลายมาก เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์จะซักประวัติเรื่องประจำเดือน การคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ และประวัติทางนรีเวชอื่น ๆ จากนั้นจะได้รับการตรวจภายใน และอาจตรวจอัลตราซาวน์ร่วมด้วย เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด ในส่วนของการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดออก ซึ่งจะแตกต่างกันไป เช่น การให้ยาฆ่าเชื้อ หรือการตัดติ่งเนื้อ ดังนั้น อย่าลืมให้ประวัติคุณหมอตามตรง เพื่อให้การวินิจฉัยโรคถูกต้อง และได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลเวชธานี
โทร 02-734-0000 ต่อ 3200
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (Reviewers) - Spectacular
- Your Rating