

มิติใหม่แห่งการผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก เพื่อซ่อมและเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ด้วยเทคนิคส่องกล้อง ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลงเหลือเพียง 4-5 เซนติเมตร ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว ลดการนอนโรงพยาบาล และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติใน 1 เดือน
นายแพทย์ชวกร เหลี่ยมไพรบูรณ์ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า หัวใจมีหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย โดยมีลิ้นหัวใจทั้งหมด 4 ลิ้น ประกอบด้วย Tricuspid valve, Pulmonary valve, Mitral valve และ Aortic valve ทำหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนเลือดใน 4 ห้องหัวใจให้เป็นไปตามทิศทางที่ถูกต้อง และป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ หากลิ้นหัวใจชำรุด เสื่อมสภาพ หรือมีโรคที่รบกวนการทำงานของลิ้นหัวใจจนเกิดความผิดปกติ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนัก จนเกิดภาวะต่าง ๆ เช่น หัวใจโต เลือดคั่งในหัวใจหรือปอด และอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวได้
สาเหตุที่ทำให้ลิ้นหัวใจเกิดความผิดปกติ
- โรคลิ้นหัวใจผิดปกติจากความเสื่อม (Degenerative Valve Disease) มักพบในผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อลิ้นหัวใจ
- โรคลิ้นหัวใจรูมาติก (Rheumatic Heart Disease) เกิดจากการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส กรุ๊ป เอ ทำให้เกิดไข้รูมาติก ซึ่งมีผลทำลายลิ้นหัวใจของผู้ป่วยในระยะยาว มักจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติของหัวใจหลังจากเป็นไข้รูมาติกประมาณ 5-10 ปี
- โรคลิ้นหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อ (Infective Endocarditis) เกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือดและเชื้อโรคไปเกาะกินลิ้นหัวใจ ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการผิดปกติแบบเฉียบพลันและหัวใจวายรุนแรง
- กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial infarction) อาจส่งผลให้เกิดลิ้นหัวใจไมตรัลรั่วตามมาได้
- ความพิการของลิ้นหัวใจแต่กำเนิด (Congenital Valve Disease) มักเกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา ทำให้การเจริญเติบโตของลิ้นหัวใจผิดปกติ
การรักษาโรคลิ้นหัวใจผิดปกติด้วยการผ่าตัดลิ้นหัวใจแผลเล็ก
การผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ หรือการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบวิธีมาตรฐาน คือการเปิดแผลผ่าตัดที่บริเวณกึ่งกลางหน้าอก (Median sternotomy) พร้อมกับตัดกระดูกหน้าอกเพื่อเข้าไปแก้ไขลิ้นหัวใจ ทำให้ผู้ป่วยมีแผลยาวตั้งแต่คอหอยถึงลิ้นปี่ และต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 เดือน จนกว่ากระดูกหน้าอกจะเชื่อมต่อกัน จึงจะกลับมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ โดยวิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดลิ้นหัวใจร่วมกับหัตถการอื่น ๆ
ปัจจุบันนี้ การรักษาโรคลิ้นหัวใจผิดปกติ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ด้วยการผ่าตัดลิ้นหัวใจแผลเล็ก หรือ MIS (Minimally Invasive Surgery) ด้วยการส่องกล้อง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับการซ่อมลิ้นหัวใจและเปลี่ยนลิ้นหัวใจ โดยจะช่วยลดการเสียเลือดขณะผ่าตัด จากการเปิดแผลขนาดเล็ก อีกทั้งยังไม่ต้องตัดกระดูกหน้าอก จึงช่วยลดจำนวนวันที่ต้องนอนโรงพยาบาล และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ในเวลา 1 เดือนหรือ 1 เดือนครึ่ง ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายผู้ป่วย
การผ่าตัดลิ้นหัวใจแผลเล็กด้วยเทคนิคส่องกล้อง สามารถใช้ในการรักษาความผิดปกติของหัวใจได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมก็ตาม โดยจะมีแผลผ่าตัดหลักความยาว 4-5 เซนติเมตร ซ่อนอยู่ใต้ราวนมหรือกลางหน้าอก ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของลิ้นหัวใจที่ต้องการเปลี่ยนหรือซ่อม มีแผลเจาะรูบริเวณข้างหน้าอกความกว้าง 0.5 เซนติเมตร จำนวน 2 แผล และมีแผลที่ขาหนีบ 1 แผล ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อใส่สายเข้าไปช่วยการทำงานของหัวใจขณะผ่าตัด
นอกจากนี้ เทคนิคการผ่าตัดลิ้นหัวใจแผลเล็กยังสามารถใช้ได้กับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหารูรั่วที่ผนังหัวใจ รวมถึงยังสามารถผ่าตัดแก้ไขลิ้นหัวใจที่มีปัญหาพร้อมกันได้ 2 ลิ้น แต่ข้อจำกัดในการผ่าตัดหัวใจแผลเล็กด้วยการส่องกล้อง คือไม่สามารถทำได้ในผู้ป่วยที่ต้องทำหัตถการอื่นร่วมด้วย เช่น การผ่าตัดลิ้นหัวใจร่วมกับการผ่าตัดบายพาสหัวใจ หรือการผ่าตัดลิ้นหัวใจร่วมกับการเปลี่ยนเส้นเลือดแดงใหญ่ โดยการผ่าตัดบายพาสหัวใจมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ การผ่าตัดบายพาสหัวใจ On-Pump ซึ่งเป็นการหยุดหัวใจผู้ป่วยระหว่างผ่าตัด และการผ่าตัดบายพาสหัวใจ Off-Pump ที่ศัลยแพทย์จะไม่ทำการหยุดหัวใจผู้ป่วยระหว่างผ่าตัด ซึ่งศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะพิจารณาว่าผู้ป่วยควรรับการรักษาด้วยวิธีใด ดังนั้น ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจนและอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์เฉพาะทาง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์หัวใจ ชั้น 5 โรงพยาบาลเวชธานี โทร. 02-734-0000 ต่อ 5300
- Readers Rating
- Rated 3.9 stars
3.9 / 5 (Reviewers) - Excellent
- Your Rating