นอนกรนอย่านิ่งนอนใจ เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ - โรงพยาบาลเวชธานี

บทความสุขภาพ

ตรวจ Sleep Test รู้ทันโรคนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

Share:

คู่แต่งงานนอนด้วยกัน สามีนอนกรน จนภรรยานอนไม่ได้

คุณนอนกรนจนคนข้าง ๆ ทนไม่ไหวอยู่หรือเปล่า ? เหนื่อยล้า ไม่สดชื่นตอนเช้า, ตื่นบ่อย ๆ ตอนกลางคืน, ปวดศีรษะตอนเช้า หากคำตอบคือ “ใช่” คุณอาจจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ลองมาทำ Sleep Test เพื่อวัดคุณภาพการนอนที่แท้จริง

การนอนเป็นสิ่งสำคัญ โดยปกติคนเราใช้เวลานอนเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อวันหรือ 1 ใน 3 ของการใช้ชีวิต เพื่อให้ร่างกายพักผ่อน หลังจากการเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน แต่ยังมีบางคนที่ระหว่างการนอนหลับมีภาวะหายใจผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ส่งผลให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงสมองทำงานหนักและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาในอนาคต

นอนกรนแบบไหนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นายแพทย์ธนกร ทรรศนียศิลป์ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันพบคนที่มีปัญหาการนอนกรนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการนอนกรนจะไม่เป็นอันตราย หากไม่มีภาวะการหายใจที่ผิดปกติหรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย โดย ผู้ป่วยที่มีทางเดินหายใจแคบ เมื่อหลับสนิทอาจจะเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ มีเสียงกรนติดขัดสะดุดไม่สม่ำเสมอ โดยจะมีบางช่วงที่นอนกรนเสียงดังสลับกับเบาและจะมีช่วงหยุดกรนไปชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการหยุดหายใจ ส่งผลให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลงตามมาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนที่สมองจะตื่นตัวและทำให้ทางเดินหายใจเปิดและกลับมาหายใจอีกครั้ง

วงจรนี้จะเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน เป็นผลให้ขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดให้มากขึ้น เกิดการอักเสบในหลอดเลือดและอวัยวะต่าง ๆ เนื่องจากการขาดออกซิเจน ในระยะยาวถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงโรคสมองได้

อาการการนอนผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์

  • นอนกรนผิดปกติ
  • รู้สึกง่วงนอนตอนกลางวันมากผิดปกติ ทั้งที่นอนอย่างเพียงพอ
  • สะดุ้งตื่นกลางคืนเพราะรู้สึกสำลักน้ำลายหรือจมน้ำบ่อย ๆ 
  • มีความรู้สึกเหมือนหายใจเหนื่อยกลางคืน สงสัยมีการหยุดหายใจขณะหลับ
  • มีคนสังเกตว่าพฤติกรรมผิดปกติขณะนอนหลับ เช่น นอนขากระตุก กัดฟัน ละเมอ หรือฝันร้าย

Sleep Test ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

​ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วย ตรวจวินิจฉัยการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อแยกว่าเป็นนอนกรนประเภทใด และสามารถบอกความรุนแรงของโรคได้ว่า มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากหรือไม่และตรวจการหายใจที่สัมพันธ์กับการทำงานของหัวใจและสมองขณะหลับ โดยมีรายละเอียดการตรวจดังนี้

  • การตรวจวัดคลื่นสมอง เพื่อวัดระดับความลึกของการนอนหลับ และการตรวจวัดการทำงานของกล้ามเนื้อขณะหลับว่า หลับได้สนิทแค่ไหน ประสิทธิภาพการนอน คลื่นสมองผิดปกติเช่นลมชักขณะหลับ
  • การตรวจดูการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะหลับ เพื่อดูว่าหัวใจมีการเต้นผิดจังหวะที่อาจมีอันตรายได้หรือไม่
  • การตรวจวัดความอิ่มตัวของระดับออกซิเจนในเลือดแดงขณะหลับ เพื่อดูว่าร่างกายมีการขาดออกซิเจนหรือไม่ในขณะหลับ และหยุดหายใจหรือหายใจเบาหรือไม่
  • การตรวจวัดลมหายใจ ที่ผ่านเข้าออกทางจมูกและปาก และการตรวจวัดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อทรวงอกและกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ใช้ในการหายใจ ดูว่ามีการหยุดหายใจหรือไม่ เป็นชนิดไหน ผิดปกติมากน้อยแค่ไหน
  • ตรวจเสียงกรน เพื่อดูว่านอนกรนจริงหรือไม่ กรนดังแค่ไหน นอนกรนตลอดเวลาหรือไม่ กรนขณะนอนท่าไหน
  • การตรวจท่านอน ในแต่ละท่านอนมีการกรน หรือการหายใจผิดปกติแตกต่างกันอย่างไร
  • การตรวจจับการเคลื่อนไหวของขา เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคการเคลื่อนไหวขาในขณะหลับ

Sleep Test คืออะไร ?

การทำ Sleep Test คือ การตรวจการนอนหลับชนิดมาตรฐาน (Standard PSG) ต้องทำในห้องปฏิบัติการนอนหลับ (Sleep laboratory) ควบคุมดูแลโดยบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมมาเฉพาะทาง เพราะการตรวจค่อนข้างซับซ้อน และมีการติดอุปกรณ์ตามร่างกายหลายอย่าง การตรวจชนิดนี้สามารถบอกได้ว่า คุณภาพในการนอนเป็นอย่างไร หลับได้ดีหรือสนิทหรือไม่ และมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นขณะนอนหลับ ถ้าพบว่ามีการหยุดหายใจบ่อย อาจจะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ (CPAP) แล้วทำการปรับความดัน เพื่อให้ทราบค่าความดันที่เหมาะสมที่สุด ที่ใช้รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลั

สำหรับการวินิจฉัยความผิดปกติขณะนอนหลับ จะทำการวัดตลอดทั้งคืน อย่างน้อยประมาณ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาปกติในการหลับของคนทั่วไป ระยะเวลาที่นอนหลับถ้าน้อยกว่า 6 ชั่วโมง ผลที่ได้จะเชื่อถือได้น้อย ผลการตรวจการนอนหลับที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลการวัดระดับความลึกของการนอนหลับอาจจะผิดพลาดได้ ต้องมีแพทย์หรือเจ้าหน้าที่มีความชำนาญในการอ่านคลื่นสมอง ตรวจเช็กผลซ้ำอีกครั้งด้วยจึงจะเชื่อถือได้

แนวทางการรักษา

หากหลังเข้ารับการตรวจ Sleep Test จะแบ่งเป็น 2 กรณี 

  1. มีความผิดปกติของภาวะนอนกรน แต่ไม่พบการหยุดหายใจหรือหายใจแผ่วร่วมด้วย แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ เช่น ลดน้ำหนัก เปลี่ยนพฤติกรรมการนอน หลีกเลี่ยงการนอนหงายเพราะจะทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจได้ง่าย หลีกเลี่ยงยาและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาแก้แพ้ และมีการติดตามประเมินอาการกับแพทย์เป็นระยะ
  2. มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิน 15 ครั้งต่อชั่วโมง แพทย์จะรักษาด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP ซึ่งเป็นวิธีการรักษามาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 90-99% แต่ปัญหาส่วนใหญ่ของวิธีนี้คือผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกไม่สะดวกสบายเพราะรู้สึกอึดอัดที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP ในขณะนอนหลับ การรักษาทางเลือกด้วยการผ่าตัดในผู้ป่วยบางราย อาจช่วยแก้ไขการหยุดหายใจทำให้ไม่ต้องกลับไปใช้หรือลดการใช้เครื่อง CPAP ลงได้ ซึ่งการผ่าตัดปัจจุบันมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และโครงสร้างความผิดปกติของโครงหน้า จมูก และปากของแต่ละคน

การตรวจการนอนหลับ หรือ Standard PSG เป็นที่ยอมรับว่าเป็น Gold standard หรือการตรวจที่ดีที่สุดที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคของการนอน โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการนอนกรนและเสี่ยงมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำการรักษาหรือแก้ไข อาจมีผลกระทบต่อสมอง หัวใจ และร่างกายส่วนอื่น ๆ ได้ บางรายเป็นรุนแรงมากอาจทำให้เสียชีวิตขณะหลับได้

นัดหมายเพื่อตรวจการนอนหลับ

ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-7340000 ต่อ 2200, 2204

  • Readers Rating
  • Rated 4.9 stars
    4.9 / 5 (5 )
  • Your Rating