หลายปีที่ผ่านมานี้ บุหรี่ไฟฟ้า (Electric Cigarette) กลายมาเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องด้วยความเชื่อที่ว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทดแทนบุหรี่มวน จะช่วยให้สามารถเลิกบุหรี่ได้ในที่สุด แต่ความจริงแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าคือสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายไม่แพ้กับสารเสพติดชนิดอื่น ๆ และยังส่งผลกระทบไปถึงคนรอบข้างอีกด้วย
บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ที่ใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำ ประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่, ตัวทำความร้อน และ น้ำยา ซึ่งบุหรี่ชนิดนี้จะไม่มีควันที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนกับบุหรี่มวนทั่วไป แต่จะเป็นการสร้างไอน้ำร้อนจากน้ำยาที่บรรจุอยู่ภายใน หลายคนจึงเข้าใจว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ ส่วนผสมที่อยู่ในน้ำยา ล้วนเป็นส่วนผสมที่อันตราย หากเรารับเข้าสู่ร่างกายผ่านการสูดดมไอน้ำร้อน จะก่อให้เกิดผลกระทบดังต่อไปนี้
นิโคติน คือ สารที่ทำให้ร่างกายเสพติดการสูบบุหรี่ ด้วยการออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ยิ่งเราสูบเข้าไปมาก ร่างกายก็จะยิ่งต้องการรับนิโคตินเข้าไปเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนิโคตินมาพร้อมกับอันตรายต่อร่างกายดังนี้
โพรโพลีน ไกลคอล และกลีเซอรีน คือ วัตถุเติมแต่งชนิดหนึ่ง นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด มีลักษณะเป็นของเหลว ไร้สี ไร้กลิ่น ทำหน้าที่เป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้แก่สิ่งที่นำไปผสม ซึ่งหากสูดดมเข้าไปในร่างกายโดยตรง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ดวงตา และปอด ส่งผลให้เกิดอาการไอได้
นอกจากส่วนผสมเหล่านี้ ในบุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารประกอบอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นอันตรายต่อร่างกายโดยตรง เช่น โลหะหนัก หรือสารหนู หากสูดดมอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ อีกทั้งสารเหล่านี้ยังส่งผลให้เซลล์ในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมะเร็งอีกหลากหลายชนิด
การสูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้สามารถเลิกบุหรี่ได้ เพราะในบุหรี่ไฟฟ้าก็มีนิโคตินเป็นส่วนประกอบไม่ต่างจากบุหรี่มวน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มจำนวนผู้สูบอายุน้อย ด้วยรูปลักษณ์และกลิ่นที่แต่งเติมมาอย่างหนัก เพื่อกลบเกลื่อนอันตรายจากส่วนผสม
ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดและโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดมากกว่าผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มากถึง 10 เท่า ดังนั้นจึงต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคอย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ 1 ปี เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษา และลดความเสี่ยงในการลุกลามของโรค
ด้วยโทษของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีมากไม่แพ้กับบุหรี่มวน หากใครที่มีเป้าหมายอยากเลิกบุหรี่ แนะนำว่าควรทำตามวิธีดังต่อไปนี้ แทนการมองหาตัวช่วยที่ไม่เพียงแต่จะทำให้เราเสพติดการสูบบุหรี่มากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังเป็นการทำลายสุขภาพทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง
สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหา สามารถขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้ที่ คลินิกโรคปอดและทางเดินหายใจ ชั้น 1 โรงพยาบาลเวชธานี โดยอายุรแพทย์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ พร้อมเทคโนโลยีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดและรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายล่วงหน้าเพื่อพบแพทย์ได้ที่ โทร. 02-734-0000 ต่อ 2200, 2204