รู้สึกชาที่มือ เท้า มีอาการหน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคเส้นเลือดสมองอุดตัน โรคที่คร่าชีวิตคนไทยจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรงถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ หากเข้ารับการรักษาไม่ทัน
นายแพทย์พงศกร พงศาพาส ประสาทศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน หรือที่เรียกว่า เส้นเลือดสมองอุดตัน (Ischemic Stroke) เป็นหนึ่งในภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมอง ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังสมองบางส่วนได้ ส่งผลให้เนื้อเยื่อสมองได้รับความเสียหาย จนเกิดอาการผิดปกติ เช่น อาการอ่อนแรง,ชาครึ่งซีก, พูดไม่ชัด, มองเห็นภาพซ้อน, สูญเสียการมองเห็นในบางข้าง, เวียนศีรษะอย่างรุนแรง, สูญเสียการทรงตัว, ปวดศีรษะอย่างรุนแรงและฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ หากไม่ได้รับการรักษาทันที อาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรต่อสมอง ส่งผลให้อัมพาตหรือเสียชีวิตได้ ซึ่งการรักษาโดยการลากลิ่มเลือด (Clot Retrieval) ด้วยเทคโนโลยี Biplane DSA จะช่วยเพิ่มโอกาสการฟื้นตัวของผู้ป่วยได้
สาเหตุของเส้นเลือดสมองอุดตันอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่
- ความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการบาดเจ็บและทำให้ลิ่มเลือดอุดตัน
- เบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เส้นเลือดเสื่อมและแข็งตัวได้ง่าย
- คอเลสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูงทำให้เกิดคราบไขมันในผนังหลอดเลือด เพิ่มโอกาสการเกิดลิ่มเลือด
- พฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงจะเพิ่มโอกาสเกิดการอุดตันของเส้นเลือด
ปัจจุบันมีการรักษาเส้นเลือดสมองอุดตันด้วยเทคนิคการลากลิ่มเลือด หรือที่เรียกว่า Thrombectomy เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดลิ่มเลือดที่อุดตันในเส้นเลือดสมอง กระบวนการนี้จะดำเนินการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านระบบประสาทและหลอดเลือดสมอง ซึ่งแพทย์จะสอดสายสวน (Catheter) ขนาดเล็กเข้าไปทางหลอดเลือดที่ขาหนีบ เพื่อนำลิ่มเลือดออกจากเส้นเลือดที่อุดตันในสมอง
เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้การรักษานี้มีประสิทธิภาพสูง คือการใช้ Biplane DSA (Biplane Digital Subtraction Angiography) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีถ่ายภาพรังสีสองมิติที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นหลอดเลือดและลิ่มเลือดในสมองอย่างละเอียดและชัดเจนในหลายมุมมองพร้อมกัน ทำให้สามารถลากลิ่มเลือดได้อย่างแม่นยำและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ซึ่งโรงพยาบาลเวชธานี มีทีมแพทย์ชำนาญการด้านระบบประสาทและหลอดเลือดสมองที่พร้อมให้การรักษาผู้ป่วยด้วยเทคนิคการลากลิ่มเลือดผ่าน Biplane DSA โดยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการรักษาและลดความเสี่ยงจากการทำหัตถการ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบวงจร
ข้อดีของการรักษาด้วยเทคนิคการลากลิ่มเลือดผ่าน Biplane DSA มีดังนี้
- ลดความเสียหายต่อสมอง การกำจัดลิ่มเลือดอย่างรวดเร็วช่วยลดการขาดออกซิเจนของสมอง และลดการทำลายเซลล์สมอง
- เพิ่มโอกาสการฟื้นฟู ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีมีโอกาสฟื้นฟูการทำงานของสมองและร่างกายได้สูงกว่า
- ลดความเสี่ยงในการทำลายเนื้อเยื่อสมองเพิ่มเติม ความแม่นยำของ Biplane DSA ช่วยลดความเสี่ยงในการทำให้หลอดเลือดหรือเนื้อเยื่อสมองเสียหายเพิ่มเติม
- ลดเวลาในการรักษา การใช้ Biplane DSA ช่วยให้แพทย์สามารถดำเนินการลากลิ่มเลือดได้รวดเร็วขึ้น ช่วยลดเวลาในการรักษาและเพิ่มโอกาสการฟื้นตัวของผู้ป่วย
การรักษาด้วยเทคนิคการลากลิ่มเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเส้นเลือดในสมองอุดตัน ที่มาถึงโรงพยาบาลภายในเวลา 4-6 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ โดยในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาในช่วงเวลานี้ โอกาสฟื้นฟูการทำงานของสมองจะสูงที่สุด
ทั้งนี้ หากท่านหรือคนใกล้ชิดมีอาการของ เส้นเลือดในสมองอุดตัน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะทุกนาทีที่ผ่านไปหมายถึงความเสียหายต่อสมอง การรักษาอย่างทันท่วงทีด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวและลดความเสี่ยงต่อชีวิต
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (Reviewers) - Spectacular
- Your Rating