ระวัง! ไอกรนกลับมาระบาด ทำไมวัคซีนจึงสำคัญกว่าที่คิด

บทความสุขภาพ

ระวัง! ไอกรนกลับมาระบาด ทำไมวัคซีนจึงสำคัญกว่าที่คิด

Share:

โรคไอกรน ในเด็ก โรคไอกรน ผู้ใหญ่

โรคไอกรน (Pertussis or whooping cough) หรือโรคไอร้อยวันเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis ทำให้เกิดอาการไอเป็นชุด ๆ ตามมาด้วยเสียงสูดลมหายใจที่ดังวู๊ปคล้ายเสียง “กรน” 

โรคนี้มีผลกระทบมากโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งในระยะแรก (1-2 สัปดาห์) จะมีอาการคล้ายหวัด เช่น ไอ น้ำมูกไหล และมีไข้ต่ำ เมื่อเข้าระยะที่สอง (2-8 สัปดาห์) ผู้ป่วยจะเริ่มไอเป็นชุด ๆ จนหายใจไม่ทัน และมีเสียงหายใจวู๊ปหลังการไอ รวมถึงอาจมีอาการอาเจียนหลังจากไอแรง

สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ที่เหมาะสม โดยเริ่มให้ช่วงแรกของโรคที่แสดงอาการ ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเช่นเด็กเล็กอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล

การป้องกันที่ดีที่สุดคือการได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรน

โดยทั่วไปเด็กทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis ที่เป็นสาเหตุของโรคไอกรนตั้งแต่อายุ 2 เดือน แต่การฉีดวัคซีนป้องกันไอกรนไม่ได้ให้ภูมิคุ้มกันที่ยาวนานตลอดชีวิต เมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อใหม่ได้ โดยเฉพาะในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ แม้ผู้ใหญ่จะไม่แสดงอาการรุนแรง แต่สามารถแพร่เชื้อไปยังเด็กทารกและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้

ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนหลายครั้งเพื่อรักษาภูมิคุ้มกันให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ ซึ่งการฉีดวัคซีนไอกรนจะทำในรูปแบบของวัคซีนรวม DTaP (Diphtheria, Tetanus, Pertussis) หรือ Tdap สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีตารางการฉีดวัคซีนที่แนะนำโดยทั่วไป (ตามภาพ) 

แม้ว่าโรคไอกรนจะสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน แต่สถานการณ์การระบาดในปัจจุบันบ่งชี้ว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และป้องกันการแพร่กระจายไปยังผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์ Super Kids Center
โทร. 02-734-0000 ต่อ 3310 , 3312 , 3319

  • Readers Rating
  • Rated 5 stars
    5 / 5 (3 )
  • Your Rating