การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาข้อเข่าเสื่อม หรือมีอาการบาดเจ็บที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้ มาดูกันว่าใครบ้างที่ควรพิจารณาการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
- ผู้ที่ข้อเข่าเสื่อมในระยะรุนแรง
ข้อเข่าเสื่อมที่อยู่ในระยะท้ายๆ อาจทำให้กระดูกอ่อนในข้อเข่าสึกหรอจนหมด ซึ่งทำให้กระดูกเสียดสีกันโดยตรง ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงมักจะพบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีประวัติโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ - ผู้ที่มีอาการปวดข้อเข่าอย่างต่อเนื่อง
หากมีอาการปวดข้อเข่าอย่างรุนแรงที่ไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีการรักษาแบบอื่น เช่น การกินยา การทำกายภาพบำบัด หรือการฉีดยาเข้าไปในข้อ อาการปวดอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การขึ้น-ลงบันได หรือแม้แต่การพักผ่อน - ผู้ที่มีข้อเข่ายุบหรือผิดรูป
เมื่อข้อเข่าเสื่อม อาจทำให้รูปร่างของข้อเข่าเปลี่ยนแปลง เช่น ขาโก่งหรือข้อเข่ายุบ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและสมดุลของร่างกาย การเปลี่ยนข้อเข่าเทียมสามารถช่วยปรับปรุงรูปร่างและการใช้งานของข้อเข่าได้ - ผู้ที่ข้อเข่าไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ
หากลองรักษาด้วยวิธีอื่นมาแล้ว เช่น การฉีดสเตียรอยด์ การลดน้ำหนัก หรือการใช้อุปกรณ์เสริมข้อเข่า แต่ยังไม่สามารถบรรเทาอาการได้ การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด - ผู้ที่มีคุณภาพชีวิตลดลง
หากอาการปวดข้อเข่าทำให้คุณไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยทำได้ เช่น การออกกำลังกาย การเดินทาง หรือการทำงานในชีวิตประจำวัน การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าอาจช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
หากมีอาการข้างต้นควรพบแพทย์ชำนาญการ เพื่อวินิจฉัยและรักษาอาการปวดเข่า โดยการรับประทานยาหรือฉีดยา ซึ่งเป็นการรักษาอาการปวดเข่าเบื้องต้น แต่ปัจจุบันมีนวัตกรรมเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมด้วย ROSA KNEE หุนยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่าเทียมได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย แผลเล็กลง เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาเดินได้ใกล้เคียงธรรมชาติ โดยสามารถลุกเดินได้ภายใน 12 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่า โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000 ต่อ 2222
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (Reviewers) - Spectacular
- Your Rating