โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (Stroke) - โรงพยาบาลเวชธานี

บทความสุขภาพ

สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองตีบตันและการป้องกัน

Share:

โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ที่เป็นมักมีอาการอย่างเฉียบพลัน บางรายโชคดีถึงมือแพทย์เร็วทันเวลาก็อาจรักษาให้หายเป็นปกติได้ แต่บางรายต้องกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต และบางรายต้องเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อตัวผู้ป่วยเอง คนใกล้ชิด ไปจนถึงกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคม

ทำความรู้จักโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน หรือ Stroke เป็นภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะเกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนต่าง ๆ ส่งผลให้สมองขาดเลือด อยู่ในภาวะที่ทำงานไม่ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการต่าง ๆ เช่น ตามองไม่เห็น ชาครึ่งซีก หรือเป็นอัมพาตแบบครึ่งซีก หรือพูดไม่ชัดหรือไม่พูด ส่วนใหญ่มักเกิดในกลุ่มวัยกลางคนขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยที่กำลังสร้างสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม

สาเหตุของหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน

  • เกิดจากการตีบของหลอดเลือด โดยมีไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือดด้านในของหลอดเลือดสมอง
  • มีลิ่มเลือดแข็งตัวขนาดเล็กเกาะที่ลิ้นหัวใจและผนังหัวใจ หลุดลอยไปตามกระแสเลือดไปอุดตันหลอดเลือดในสมอง ซึ่งมักพบในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจโต ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว ผนังหัวใจรั่ว
  • เกิดจากการฉีกขาดของผนังหลอดเลือดสมอง ทำให้เส้นเลือดอุดตัน
  • เกิดจากความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด ซึ่งแข็งตัวง่ายเกินไป โดยที่เลือดขาดสารบางอย่าง หรือมีเม็ดเลือดแดง หรือเกล็ดเลือดมากเกินไป

อาการเบื้องต้นที่พบบ่อย

  • ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน
  • มีอาการชา อ่อนแรง และหน้าเบี้ยว หรือมีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย
  • พูดลำบาก หรือฟังไม่เข้าใจ
  • เวียนศีรษะ การทรงตัวไม่ดี เดินเซ
  • กลืนลำบาก
  • ปวดศีรษะ (บางครั้งจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง)

ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะแสดงออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีอาการหลายอย่างพร้อมกัน โดยถ้าผู้ป่วยสามารถกลับคืนมาปกติใน 24 ชั่วโมง เรียกว่า TIA (Transient Ischemic Attack) หรือ Mini Stroke ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ เพื่อให้การรักษาและวินิจฉัยโดยด่วน

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมและโรคบางอย่างอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตันได้ โดยปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคมีดังนี้

โรคเรื้อรัง

  • โรคความดันโลหิตสูง ผู้มีความดันโลหิตสูงกว่า 160/90 mmHg เป็นระยะเวลานาน จะทำให้หลอดเลือดแข็งตัวเร็วกว่าปกติ ส่งผลทำให้สมองทำงานผิดปกติ เกิดหลอดเลือดตีบตัน หรือแตก
  • โรคเบาหวาน ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบแข็ง ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลงและเกิดอาการต่าง ๆ ที่กล่าวมาได้
  • โรคหัวใจ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ทำให้มีลิ่มเลือดหลุดไปอุดหลอดเลือดสมอง
  • ไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองมากกว่า คนที่ไม่เป็นโรค

พฤติกรรมเสี่ยง

  • การสูบบุหรี่ มีความเสี่ยงก่อให้เกิดหลอดเลือดตีบหรืออุดตันที่สมองและหัวใจ
  • ดื่มแอลกอฮอล์มาก ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและหัวใจทำงานหนักขึ้น
  • ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ

ปัจจัยอื่น ๆ

  • โรคอ้วน ทำให้ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และเป็นเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

การตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยการตรวจหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน สามารถตรวจคัดกรองด้วย Carotid Doppler หรือการตรวจหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ เพื่อดูความหนาของหลอดเลือด การตีบหรือตันของหลอดเลือด รวมถึงปริมาณไขมันและหินปูนที่เกาะบริเวณผนังหลอดเลือด เพื่อตรวจสอบการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงที่สมอง

การตรวจวินิจฉัย

แพทย์จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ให้ผลละเอียดและมีความแม่นยำสูง เช่น การตรวจสมองด้วยคอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI และ MRA) การตรวจการไหลเวียนเลือดของหลอดเลือดในสมอง (Transcranial Doppler : TCD) และการตรวจหลอดเลือดคอ เพื่อดูว่ามีการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดส่วนไหน และความรุนแรงเป็นอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบตันที่สำคัญที่สุดคือ การทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยให้เซลล์สมองที่ยังไม่ตายฟื้นตัวขึ้นมาเร็ว ส่งผลให้ผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติได้ 

ซึ่งการรักษานี้จะต้องทำภายใน 4.5 ชั่วโมง เพื่อให้ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolysis) การให้ยานี้ผู้ป่วยควรอยู่ในความดูแลของอายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท หากเกิน 4.5 ชั่วโมงแล้ว ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาลต่ออีก  2-3 วัน ด้วยวิธีการที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยมากที่สุด เช่น

  • การรักษาโดยการให้ยาบางประเภท เพื่อให้เซลล์สมองเสียน้อยที่สุด โดยระยะแรก ๆ ควรจะดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อสังเกตอาการแทรกซ้อน และบำบัดรักษาโรคอื่น ๆ ของผู้ป่วย เช่น โรคเบาหวาน ความดันสูง โรคไต ปอดบวม ภาวะกลืนลำบาก เป็นต้น
  • การรักษาโดยใช้กายภาพบำบัด สำหรับผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต ไม่ว่าจะเป็นการฝึกนั่ง ยืน เดิน การฝึกกลืน ฯลฯ
  • การรักษาโดยใช้จิตบำบัด สำหรับผู้ป่วยที่ซึมเศร้า เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต

ผู้ป่วยควรได้รับการฟื้นฟูมากที่สุด เพื่อให้ช่วยเหลือตัวเองหรือเป็นอิสระมากที่สุด ในกรณีผู้ป่วยบางรายที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทีมแพทย์และพยาบาลควรจะมีการติดตามอาการผู้ป่วยขณะบำบัดที่บ้านด้วย

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบตันที่ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน เป็นโรคที่อันตรายและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้อย่างมาก แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้

  • งดสูบบุหรี่
  • ควบคุมอาหาร อย่าให้น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ถ้าเป็นเบาหวาน ควรรักษาระดับน้ำตาลให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรดูแลความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ความประมาทในวัยหนุ่มสาว มักทำให้เราเชื่อมั่นในสุขภาพร่างกายของตนเองมากเกินไป จนใช้ชีวิตอย่างหนักหน่วง ไม่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และละเลยการดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง จนเป็นบ่อเกิดที่ค่อย ๆ สะสมภัยร้าย เมื่อผนวกกับร่างกายที่เริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลา จึงนำไปสู่โรคร้ายแรงที่สามารถคร่าชีวิตคนได้ทันที หรือต้องได้รับการรักษาเพื่อประคองตัวอย่างยาวนาน ทางที่ดีเราควรเริ่มดูแลสุขภาพกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ต้านทานโรคภัยต่าง ๆ และมีสุขภาวะที่ดีไปอีกยืนยาว

เพราะสุขภาพดีสร้างได้ ไม่ใช่ความโชคดี แต่เป็นเรื่องของแนวคิดและวิธีในการปฏิบัติต่อร่างกายของตัวเอง สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยหรือมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน สามารถปรึกษาได้ที่ ศูนย์สมองและระบบประสาท ชั้น 4 ตึก King of Bones โรงพยาบาลเวชธานี ทีมแพทย์ชำนาญการของเราพร้อมให้การตรวจวินิจฉัยและรักษา ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายแพทย์ล่วงหน้าได้ที่ โทร. 02-734-0000 ต่อ 5400, 5444

  • Readers Rating
  • Rated 3.6 stars
    3.6 / 5 (34 )
  • Your Rating