นายแพทย์วีรยุทธ เอื้อวิเศษวงศ์ ศัลยแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า
ทางเดินอาหารของคนเรา เริ่มตั้งแต่ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และไปจบที่รูทวาร เพราะฉะนั้นถ้าเมื่อไหร่อุจจาระของเรามีเลือดปนออกมา แสดงว่ามีเลือดออกมาจากที่ใดที่หนึ่งในอวัยวะเหล่านี้
อาการถ่ายเป็นเลือดปนกับอุจจาระ อาจทำให้หลายคนหลงเข้าใจผิดว่านี่อาจเป็นอาการของโรคริดสีดวงทวาร และละเลยการรักษาจนทำให้อาการลุกลาม และรุนแรงขึ้น สำหรับอาการถ่ายเป็นเลือดปนอุจจาระ ก็เป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจเกิดจากอุจจาระที่แข็งแล้วไปเบียดกับ #ติ่งเนื้อ หรือมะเร็งที่ขึ้นผิดปกติภายในลำไส้จนเกิดเป็นแผล ทำให้มีเลือดออกและปนออกมากับอุจจาระในบางครั้ง
พึงระวัง “ถ่ายเป็นเลือด”จุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรง
อาการ ถ่ายเป็นเลือด หลายคนอาจจะคิดว่าไม่น่ากลัว แค่โรคธรรมดา ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้ แต่ใครจะรู้ว่าจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของอาการถ่ายเป็นเลือด อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงที่น่ากลัว เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก หรือจะเป็นโรคใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม อย่างโรคริดสีดวงทวาร โรคบิด โรคเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก ฯลฯ อ่านต่อ…
โรคริดสีดวงทวาร หากพบเร็ว ในระยะแรก ๆ สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการยากิน ยาเหน็บ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การกินอาหาร การขับถ่าย เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรงอาจต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัด ซึ่งสัญญาณเตือนโรคริดสีดวงที่หากมีอาการแล้ว ไม่ควรจะอยู่เฉยควรรีบเข้ามาตรวจและปรึกษาแพทย์ อ่านต่อ…
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคฝีคัณฑสูตร
“ฝีคัณฑสูตร” พบได้บ่อยไม่แพ้โรคริดสีดวงทวาร และสร้างความทรมานให้แก่ผู้ป่วยไม่แพ้กัน โดยโรคดังกล่าวเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อภายในต่อมบริเวณทวารหนักระยะเรื้อรัง (cryptoglandular infection) จนเกิดเป็นฝี เมื่อแตกออกจะมีหนองไหลออกมาบริเวณผิวหนังรอบทวารหนัก ทำให้มีหลายคนเกิดความสับสนกับโรคริดสีดวงทวาร และมักจะมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับโรคนี้ ดังต่อไปนี อ่านต่อ…
“เนื้อแดง – เนื้อแปรรูป” ไม่ว่าเมนูไหน ก็เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
ใครจะรู้ว่าอาหารที่เรารับประทานอยู่ทุกวัน จะแฝงไปด้วยปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะอาหารแปรรูปที่ผ่านการหมัก รมควัน หรือกระบวนการต่าง ๆ ที่เพิ่มรสชาติหรือถนอมอาหาร เช่น เบคอน ไส้กรอก แหนม ลูกชิ้น หมูยอ และกุนเชียง เป็นต้น โดยอาหารเหล่านี้มีสารเคมี ไนโตรซามีน (nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง เมื่อมีการสะสมในร่างกายจะทำปฏิกิริยากับปัจจัยอื่นในร่างกาย เช่นการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร หรือสารอื่นที่ร่างกายได้รับผ่านทางอาหาร ส่งผลให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ อ่านต่อ…
เทียบอาการ ริดสีดวง VS ฝีคัณฑสูตร
โรคทางทวารหนัก เป็นโรคใกล้ตัวที่มักกระทบคุณภาพชีวิต และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยโรคที่มักพบบ่อย คือโรคริดสีดวงทวาร และฝีคัณฑสูตร หลายคนมักสับสนว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่ในความเป็นจริง โรคฝีคัณฑสูตร เป็นโรคติดเชื้อทางทวารหนักระยะเรื้อรัง และอาจมีเลือดออกจนทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคริดสีดวงทวารหนักและได้รับการรักษาที่ไม่ถูกวิธีได้ อ่านต่อ…
หากริดสีดวงทวารเกิดแตกขึ้นมา ! อย่าพึ่งตกใจไปให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน “อุปกรณ์ที่ใช้ในการปฐมพยาบาลต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของความสะอาดและสุขอนามัย” อ่านต่อ…
โรคฝีคัณฑสูตร รักษาได้ด้วยเทคนิค LIFT
อีกหนึ่งโรคทางทวารหนักที่พบบ่อยไม่แพ้โรคริดสีดวงทวาร คือโรคฝีคัณฑสูตร ซึ่งมักทำให้เกิดความเจ็บปวดบริเวณรอบทวารหนัก และกระทบต่อคุณภาพชีวิต ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับหูรูด หลังการรักษาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อ่านต่อ…
เช็กลิสต์ สัญญาณเตือน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
หากรู้ตั้งแต่ระยะแรกจะทำให้การรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่มีความซับซ้อน โดยในผู้ป่วยบางคนที่มีติ่งเนื้อที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมถึงผู้ป่วยที่มีก้อนมะเร็งและเป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้นแล้ว สามารถใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องในการรักษาโดยไม่มีแผลได้ (endoscopic submucosal dissection) อ่านต่อ…
ริดสีดวงทวารหนัก โรคที่สามารถพบได้ทั่วไปในยุคปัจจุบัน เนื่องด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ไม่เอื้ออำนวยต่อการเข้าห้องน้ำ หรือการติดโทรศัพท์ ติดโซเชี่ยล เล่นมือถือ เข้าไปในห้องน้ำ ทำให้ยืดระยะเวลาการนั่งถ่าย อ่านต่อ…
“ต้องถือว่าเป็นโชคดีของผมที่ตัดสินใจให้คุณหมอส่องกล้องสำไส้ใหญ่ ณ วันนั้น ทำให้รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นระยะที่ยังไม่ลุกลาม ใช้เวลารักษาด้วยการใช้ยาเคมีบำบัดแบบรับประทานเพียง 6 เดือนเท่านั้น ระหว่างรักษาไม่มีอาการข้างเคียงที่รุนแรงเลย มีแค่ผิวแห้งคล้ำนิดหน่อย ตอนนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว ค่าเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ การทำซีทีสแกนแต่ละครั้งก็เป็นที่น่าพอใจ ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ อยากฝากว่าเรื่องของมะเร็งลำไส้ใหญ่ มันไม่ได้ตรวจเจอด้วยการที่เรามาตรวจสุขภาพประจำปี สิ่งที่จะช่วยเราได้ก็คือการส่องกล้อง ”
“ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มักไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือน ถ้าเมื่อไหร่เริ่มมีอาการแสดงว่า มะเร็งอาจอยู่ในระยะลุกลาม การป้องกันสามารถทำได้โดยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เพื่อหาติ่งเนื้อในลำไส้และตัดทิ้งก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ”
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากติ่งเนื้อหรือ Polyp ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งเมื่อมีติ่งเนื้อเกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยจะไม่มีอาการอะไร จนติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่และกลายเป็นมะเร็งแล้วจึงเริ่มมีอาการเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันแพทย์สามารถตรวจหาติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ได้ ด้วยเทคโนโลยีการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ทำให้สามารถตรวจพบติ่งเนื้อได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้ว่าติ่งเนื้อนั้นจะมีขนาดเล็กเพียง 2 มิลลิเมตร หรือขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว
ปัจจัยของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีทั้งที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ เช่น อายุ พันธุกรรม และที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น พฤติกรรมการรับประทาน โดยเฉพาะการบริโภคเนื้อแดง เนื้อแปรรูปในปริมาณมาก ลองเช็กลิสต์พฤติกรรมที่ควรเลี่ยง และอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ไปพร้อม ๆ กันกับคลิปนี้
“เป็นริดสีดวงระยะที่ 4 พอไปตรวจที่อื่นพบว่าต้องเว้นระยะในการผ่าตัดหลายครั้ง และใช้เวลาพักฟื้นนาน เลยตัดสินใจเข้าพบคุณหมอที่โรงพยาบาลเวชธานี เพราะว่ามีวิธีการผ่าตัดที่ทันสมัย และไม่ต้องเว้นระยะในการผ่าตัด หลังจากการผ่าตัด 2 อาทิตย์ ผมสามารถใช้ชีวิตและถ่ายได้ปกติ ไม่ต้องพักฟื้นนาน”
“เป็นริดสีดวงแต่ไม่มีอาการ แต่รู้ตัวว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ ไม่ชอบกินผัก จนมาถ่ายแล้วพบว่ามีเลือดออกมาด้วย และรู้สึกเจ็บ เลยตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี คุณหมอใจดีมาก ๆ ให้ข้อมูลครบถ้วน เราก็เลยตัดสินใจผ่าตัดริดสีดวงด้วยวิธีเลเซอร์ หลังจากการผ่าตัดไม่รู้สึกเจ็บมากขนาดนั้น และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ”
“เป็นริดสีดวงมา 8 ปี เมื่อก่อนไม่ได้เป็นหนักมากขนาดนี้ ตอนนี้ก็คือมีติ่งเนื้อยื่นออกมา ทำให้ใช้ชีวิตลำบาก ไม่ว่าจะนั่งหรือเดินก็จะรู้สึกเจ็บ รักษามาทุกทางแต่ก็ยังไม่หาย เลยหาข้อมูลที่รักษาริดสีดวงแบบใช้เวลาน้อยที่สุด จนมาเจอโรงพยาบาลเวชธานี ที่รักษาด้วยวิธี HAL-RAR เลยเข้ามาพบคุณหมอ และตัดสินใจผ่าตัดด้วยวิธีนี้ทันที หลังจากการผ่าตัด คือฟื้นตัวเร็วมาก คือผ่าวันนี้ พรุ่งนี้เราเดินได้เลย”
ปัจจุบันมีเทคนิครักษาด้วยเลเซอร์ ซึ่งเหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวารระยะที่ 2 – 3 เนื่องจากเป็นระยะที่จะให้ผลการรักษาได้ดีที่สุด
กรุณาใส่รายละเอียดทางการแพทย์ และประวัติทางการแพทย์ของท่านให้ครบถ้วนที่สุด ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ของเราให้คำปรึกษาได้อย่างแม่นยำและถูกต้องมากขึ้น
Hotline 02 734 0000