โรคไตวายเรื้อรังระยะแรกถึงปานกลาง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการหรือมีอาการแค่เล็กน้อย ซึ่งการจะทราบได้ว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรังก็ต่อเมื่อเข้ารับการตรวจเลือดหรือปัสสาวะเท่านั้น

การออกกำลังกายถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่การออกกำลังกายที่เกิน limit อาจเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง โดยเฉพาะนักวิ่งที่วิ่งในระยะทางไกล หากเกิดภาวะขาดน้ำ จะทำให้ร่างกายหมุนเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองและหัวใจก่อนอวัยวะอื่น และอาจส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงไตลดลง ทำให้ไตทำงานลดลง ปัสสาวะออกน้อย และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ซึ่งเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

โรคไตวายเรื้อรัง คือโรคที่ไตถูกทำลายจนไม่สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อย ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคไตอักเสบ นิ่วไต และการได้รับยาหรือสมุนไพรที่มีพิษต่อไต โดยโรคไตวายเรื้อรังระยะแรกถึงปานกลาง

ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังจำต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปรับการบริโภคอาหาร เพื่อชะลอความเสื่อมและลดโอกาสการดำเนินโรคเร็วกว่าที่ควรจะเป็น โดยสามารถปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารตามระยะโรคได้ดังนี้

ตามธรรมชาติของร่างกาย อวัยวะจะเริ่มเสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น ไตก็เช่นกันโดยการจะทำงานลดลงเฉลี่ยปีละ 1% แต่เมื่อไหร่ที่เกิดความผิดปกติก็จะทำให้ไตเสื่อมลงเร็วกว่าปกติ หากการทำงานของไตลดลงเหลือน้อยกว่าร้อยละ 60 เป็นเวลานานเกิน 3 เดือน ทางการแพทย์จะเรียกว่าภาวะไตวายเรื้อรัง แต่ถ้าการทำงานของไตลดลงอย่างรวดเร็วหรือหยุดการทำงานทันที ทางการแพทย์เรียกว่าไตวายเฉียบพลัน โดยโรคไตเรื้อรังสามารถเกิดได้จาก 3 สาเหตุหลักดังต่อไปนี้

ไตเสื่อม ไม่ใช่ภาวะที่ผู้ป่วยจะรู้ตัวเองได้ เพราะในระยะแรก ๆ ร่างกายแทบจะไม่แสดงอาการหรือสัญญาณใด ๆ เลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีคืออาจเข้าสู่ภาวะไตเสื่อมรุนแรงแล้ว

โรคไตติดอันดับ 1 ใน 5 โรคยอดฮิตของคนไทย พบได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่เฉพาะแค่ผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดคือโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง #หัวใจ รองลงมาคือโรคไตอักเสบ นิ่วไต และการใช้ยาที่มีผลเสียต่อไตหรือได้รับสารเคมีบางชนิด

ปัสสาวะออกน้อย ขาบวม หนังตาบวม อาการของโรคไตวายเฉียบพลัน อาจหายขาดได้หากมาพบแพทย์ภายใน 3 เดือนหลังมีอาการ