ลองโควิด (Long COVID) เป็นอาการผิดปกติที่หลงเหลือหลังติดเชื้อโควิด-19 โดยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าพบภาวะลองโควิดถึง 30-50% ส่วนใหญ่เกิดในผู้ป่วยโควิด-19 ที่เชื้อลงปอดและมีโรคประจำตัวเรื้อรังร่วมด้วย รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ซึ่งลองโควิดสามารถก่อให้เกิดอาการผิดปกติได้มากกว่า 200 อาการ แต่มี 11 อาการที่พบบ่อย ดังนี้

อาการปวดหลังส่วนบนและอาการปวดคอ มักเกิดจากท่าทางและพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การก้มหน้าเล่นแท็บเลต แต่ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำปวดหลังส่วนบนและปวดได้เช่นกัน

โรคข้อสะโพกเสื่อมไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในผู้สูงอายุ บางคนอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือมีพัฒนาการที่ผิดปกติ จึงทำให้ข้อสะโพกเสื่อมเร็วกว่าคนทั่วไป ซึ่งพบได้ตั้งแต่อายุ 40 ปี เช่น ภาวะเบ้าสะโพกชันผิดปกติ ผู้ที่ข้อสะโพกติดเชื้อหรือมีอุบัติเหตุบาดเจ็บข้อสะโพกตั้งแต่เด็ก ภาวะหัวข้อสะโพกขาดเลือด เป็นต้น

ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดในรายที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีอายุ 55-75 ปี และสูบบุหรี่มากกว่า 30 มวน/ปี โดยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ชนิดปริมาณรังสีน้อย (Low Dose CT Scan) นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำ ยังสามารถตรวจพบความผิดปกติในเบื้องต้น ได้จากการเอกซเรย์ปอด เช่น สามารถตรวจพบจุด หรือ ก้อนในปอดได้

โรคต่อมลูกหมากโต เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ปัจจัยหลักเกิดจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชายเมื่ออายุมากขึ้น

เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าเป็นเส้นเอ็นสำคัญที่ช่วยให้ข้อเข่ามีความมั่นคงขณะใช้งาน ไม่หมุนเคลื่อนหรือบิดผิดปกติในขณะเดินหรือวิ่งป้องกันข้อเข่าไม่ให้เกิดอันตรายต่อส่วนประกอบภายในอื่น ๆ ในข้อเข่า เช่นหมอนรองเข่า (Meniscus) หรือกระดูกอ่อนข้อเข่า (cartilage) เป็นต้น แต่ถ้าเอ็นไขว้หน้าบาดเจ็บหรือฉีกขาดแล้วไม่รีบรักษาอาจนำไปสู่ภาวะเข้าเข่าเสื่อมได้

เส้นผมสุขภาพดี บ่งบอกถึงการดูแลตัวเองที่ดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นได้ แต่หากมีปัญหาผมร่วงไม่ว่าจากสาเหตุใด คงทำให้สูญเสียความมั่นใจได้เช่นกัน

ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังจำต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปรับการบริโภคอาหาร เพื่อชะลอความเสื่อมและลดโอกาสการดำเนินโรคเร็วกว่าที่ควรจะเป็น โดยสามารถปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารตามระยะโรคได้ดังนี้

มือเท้าปาก โรคที่ผู้ปกครองกังวลมากที่สุด เพราะเป็นโรคที่ติดต่อกันง่ายมาก ผ่านสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก หรือการไอจามรดกัน หรือการสัมผัสของเล่นต่อกัน ฯลฯ